อาการของมะเร็งผิวหนัง
1. อาการแสดงออกทั้งร่างกาย:ผู้ป่วยทั้งมะเร็งชนิด benignกับมะเร็งชนิดร้ายแรงไม่ค่อนมีอาการทางร่างกายแสดงออกอย่างชัดเจน จนถึงระยะสุดท้ายผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เช่นผู้ป่วย Rhabdomyosarcoma กับผู้ป่วยsarcomaอาจมีอาการเช่นต่อไปนี้แสดงออกตัวร้อนเลือดจางไม่เจริญอาหารผอมลงน้ำหนักลดลงเป็นต้น
2. อาการเฉพาะส่วน:กระดูก ไขข้อ ผิวหนัง หรือก้อนบวมของผิวหนัง อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดความบกพร่องหรือเกิดความผิดปกติคืออาการที่ได้พบป่อย
(1) ปวด:ความปวดเป็นอาการที่ได้พบป่อยกับเนื้องอกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนแรก ปวดเล็กน้อย และเป็นพักๆ ค่อยๆรุนแรงขึ้น กลายเป็นความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือเนื้องอกกระดูกพลิตความตึงเครียดหรือความกดดันต่อเยื่อหุ้มกระดูกชั้นนอกกับเยื่อหุ้มกระดูกชั้นใน แต่ความเจ็บปวดก็ไม่ได้หมายความว่า เนื้องอกนั้นเป็นเนื้องอกร้ายแรง เนื้องอกชนิดbenignบางอย่าง เช่นOsteoid osteoma อาจปวดเพราะกระดูกเจริญเติบโตทันใดความรู้สึกเจ็บรุนแรงมาก อาจเพราะกระดูกหากทางพยาธิวิทยา
(2)ก้อนบวม:เนื้องอกชนิด benignแข็งและไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด เนื้องอกร้ายแรงที่กำลังเจริญเติบโตชอบแสดงออกเป็นพองตัวอย่างกระจาย และกดแล้วเจ็บ ผิวหนังร้อน เส้นเลือดตื้นคัดตึง
(3)อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งขัดต่อบกพร่องและกดขี่ส่วนหนึ่ง:หากเนื้องอกใกล้ไขข้อ การทำงานของไขข้อจะถูกจำกัด เวลาเคลื่อนไหวความเจ็บปวดจะหนักขึ้น เนื้องอกเกิดขึ้นที่กระดูกสานหลังไม่ว่าเป็นเนื้องอกชนิดใดก็สามารถกดขี่ถึงเส้นประสาทไขสันหลังทำให้พิการ
(4)รูปพิกลพิการ:เกิดขึ้นระหว่างผู้ป่วยที่อายุสูงหรือมีกระดูกหักทางพยาธิวิทยา สามารถทำให้พิกลพิการได้ หากเป็นMultiple chondroma จะกระทบต่อความเติบโต แขนขามีการเปลี่ยนรูปงอ การเติบโตไม่เท่ากัน Enchondromaเติบโตและขยายตัวทำให้กระดูกแขนและขารูปร่างแปลกประหลาด เนื้องอกลุกลามถึงgrowth plateจะทำให้การเจริญพันธุ์ผิดปกติ
การตรวจทางพยาธิวิทยา
1.การตรวจโดยเซลล์วิทยา : ①สำหรับมะเร็งผิวหนังที่เกิดการอักเสบสามารถใช้ฟิล์มเลือดหรือฟิล์มขูดนำเซลล์ตัวอย่างมาวินิจฉัยโดยการส่องกล้อง ①อาการน้ำท่วมช่องอกที่มีสาเหตุเกิดจากมะเร็งผิวหนัง ต้องเอาเซลล์ตัวอย่างที่สดใหม่ โดยการใช้วิธีการตกตะกอน เอาสารตกตะกอนมาหยดลงบนแผ่นฟิล์ม ①การตรวจโดยการใช้เข็มเล็กเจาะเหมาะสำหรับมะเร็งขนาดใหญ่ อยู่ในส่วนลึกและการเตรียมตัวก่อนจะไปฉายแสงหรือให้ยาเคมี และยังเหมาะสำหรับอาการที่มีการลุกลามหรือโรคกำเริบกลับมาเป็นอีก
2.การเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ:ถ้าสงสัยในอาการที่เป็นอยู่การเอาชิ้นเนื้อไปตรวจมีความจำเป็นอย่างมาก แต่การเลือกวิธีการนำชิ้นเนื้อไปตรวจนั้นควรพิจารณาว่าจะสามารถทำการผ่าตัดได้หรือไม่ การผ่าตัดอาจจะทำพร้อมกับการเอาชิ้นเนื้อไปตรวจหรือทำภายหลังก็ได้
การแบ่งระยะของมะเร็งผิวหนัง
การแบ่งระยะของมะเร็งผิวหนังจะขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนมะเร็ง หรือการแบ่งระดับทางพยาธิวิทยาและดูว่ามีการลุกลามที่บริเวณต่อมน้ำเหลืองหรือบริเวณที่ไกลกว่านั้นหรือไม่
โรคมะเร็งผิวหนังในผู้ใหญ่แบ่งออกเป็นสี่ระยะ ระยะที่ 1 2และ 3 นั้นยังไม่มีการแพ่รกระจายที่บริเวณต่อมน้ำเหลืองหรือที่ไกลกว่านั้น ระยะที่สี่มีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองเป็นระยะที่4a หากมีการแพร่กระจายไปในส่วนที่ไกลออกไปเป็นระยะที่4b
หลักการการแบ่งระดับทางพยาธิวิทยาขึ้นอยู่กับปริมาณการแบ่งนิวเคลียสของเนื้องอก ระดับที่หนึ่งคือความเร็วในการแบ่งเซลล์มะเร็งค่อนข้างช้า มีการแพร่กระจายน้อย ระดับที่สองคือความเร็วในการแบ่งเซลล์มะเร็งจะเป็นระดับกลาง มีอัตราการแพร่กระจายน้อยกว่า 20% ระดับที่สามคือความเร็วในการแบ่งเซลล์เนื้องอกจะค่อนข้างเร็ว มีอัตราการแพร่กระจายมากกว่า 50%
เนื้องอกที่แบ่งตัวช้ามีอัตราการรอดชีวิตเป็นเวลาห้าปีสูงกว่า 75% แต่เนื้องอกที่มีการแบ่งตัวเร็วอัตราการรอดชีวิตเป็นเวลาห้าปีจะต่ำกว่า 25% เท่านั้น
ในการตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง แพทย์จะทำการซักประวัติหาความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง และทำการตรวจผิวหนังทุกส่วน ตลอดจนเยื่อบุบริเวณต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เรียกว่า Dermoscopy เพื่อส่องขยายรอยโรคที่ผิวหนัง ว่ารอยโรคใดมีลักษณะต้องสงสัยการเป็นมะเร็งหรือไม่ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 20-30 นาที หากพบรอยโรคที่ต้องสงสัย แพทย์จะแนะนำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ต่อไป
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัย
คือ การตัดหรือฝานชิ้นเนื้อตัวอย่างของรอยโรคผิวหนังเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา เนื่องจากการวินิจฉัยโรคทางผิวหนัง การดูรอยโรคและตรวจแล็บเบื้องต้นยังไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องทำการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ โดยมีข้อบ่งชี้ ดังนี้
1. รอยโรคที่สงสัยว่าจะเป็นโรคมะเร็ง
2. รอยโรคที่มีการวินิจฉัยไม่ชัดเจน
3. รอยโรคที่ต้องได้รับการยืนยันทางพยาธิวิทยาเพื่อการวางแผนการรักษา
ซึ่งวิธีการตัดชิ้นเนื้อที่ใช้มีอยู่ 2 วิธี คือ การฝานรอยโรค (Shave biopsy) และการตัดชิ้นเนื้อ แบบแผลเล็กด้วยอุปกรณ์เฉพาะ (Punch biopsy) Punch biopsy เป็นวิธีที่ใช้บ่อยวิธีหนึ่ง เนื่องจาก
1. แผลเล็ก โดยทั่วไปมักใช้ขนาดประมาณ 3- 4 มิลลิเมตร เพราะเป็นการตัดชิ้นเนื้อด้วยการใช้อุปกรณ์พิเศษ ลักษณะคล้ายปากกาคือปลายเป็นรูทำจากเหล็กคม เพื่อกดลงตัดเนื้อให้ได้ชิ้นเนื้อออกมา และเย็บเพียง 2- 3 เข็ม
2. ประหยัดเวลา ใช้เพียง 10-20 นาที ในการผ่าตัด
3. สามารถกลับบ้านได้เลย
4. ทราบผลชิ้นเนื้อภายในประมาณ 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาผิวหนังระดับประเทศ ทำการอ่านผลแล็บจากการการตัดชิ้นเนื้อ เพื่อการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการทำหัตถการ
1. ระบุตำแหน่งของรอยโรคที่จะทำการตัดชิ้นเนื้อตัวอย่าง
2. ทำความสะอาดบริเวณรอยโรค
3. ฉีดยาชาเฉพาะที่
4. กดเครื่องมือลงบนชิ้นเนื้อที่ต้องการตรวจ
5. เย็บแผล 2-3 เข็ม
6. นัดตัดไหมที่ระยะเวลา 5-7 วัน
เทคโนโลยีทางการแพทย์สำหรับโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
1.การผ่าตัด : ①การผ่าตัดแบบดั้งเดิม:เป็นการผ่าตัดเอามะเร็งและเซลล์มะเร็งบริเวณใกล้เคียงออกไป ②การผ่าตัดเพื่อนำเซลล์มะเร็งออกให้มากที่สุด:เป็นวิธีการใช้ในการผ่าตัดในส่วนของมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนออกหมดได้ ซึ่งหลังการผ่าตัดแล้วก็จะใช้วิธีอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและยืดอายุของผู้ป่วยให้ดีขึ้นและยาวนานขึ้น ③การผ่าตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของแขนและขาออกไป:เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มากและมีอาการที่รุนแรง สามารถพิจารณาการเลือกใช้การผ่าตัดวิธีนี้
2.การฉายแสง : การฉายแสงเพื่อยับยั้งการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งที่มีความรู้สึกไวจากรังสี สามารถทำได้ก่อนการผ่าตัดหรือหลังการผ่าตัด
3.การให้ยาเคมี : โดยการใช้ยาทำลายเซลล์ร้าย แต่เพื่อได้รับผลลัพธ์ที่ดี ปริมาณของการใช้ยาจะค่อนข้างมาก และโดยปกติผลข้างเคียงของยาก็จะรุนแรงตามไปด้วย
4.เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็กเฉพาะจุด การบูรณาการระหว่างแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน
การผ่าตัดเฉพาะจุดเป็นแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆในหลายปีมานี้ การใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพเป็นตัวนำ โดยใช้ยาที่มีการพัฒนา เทคโนโลยียีนชีวภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการทำลายมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย การส่งเสริมการปลูกเซลล์ใหม่ และทำให้การทำงานกลับมาเป็นปกติ มีจุดเด่นคือเป้าหมายแม่นยำ บาดแผลเล็ก การบาดเจ็บน้อย และมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
วิธีการดูแลทางด้านโภชนาการผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังมีอะไรบ้าง?
1. อาหารการกินหลังผ่าตัด : หลังจากทำการผ่าตัดมะเร็งผิวหนังแล้วจะเสียเลือดมาก จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่บำรุงเลือด เช่น ข้าวJaponica ถั่วแขก พุทรา เห็ดหอม แครอท โจ๊กรากบัว ถั่วต่างๆ เป็นต้น
2. 放射治疗时的饮食:在放射治疗中,体液被代谢。因此,应多食菠菜、白菜、莲藕、白梨、香蕉、葡萄等新鲜蔬菜和水果等营养食品。
3、化药时吃的食物:应选择有滋补作用的食物,如白耳菇、香菇、栗子等。
皮肤癌患者的日常护理是什么?
1.患者应避免日晒。
2.如果有疑似症状,疾病会复发。你应该紧急去看医生。
3. 皮肤癌发病率高。在照顾病人的同时 因此,每个皮肤都应该考虑。详细部分 特别是在耳后和炎症区域
皮肤癌的危险因素
黑色素瘤的危险因素尚不清楚。通常理解为涉及以下因素:
1品质论:强调刺激下身体发生的身体的品质。例如,残留的胚胎异位组织已被刺激成为肿瘤,例如脊索瘤。
2.基因(遗传)理论:正常细胞发生肿瘤变化。肿瘤细胞继续受精并去除遗传的生物学特征。
3.慢性刺激理论:
(1) 慢性化学兴奋剂
(2)物理因素
4. 病毒理论用于寻找肉瘤患者血清中的特异性抗体。
成为致命的癌症