อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะแรก
1. อาการท้องอืดในกระเพาะอาหารช่วงบน กว่า 70% ของผู้ป่วยจะมีอาการนี้ อาการนี้จะอยู่กับผู้ป่วยไปตลอด เป็นอาการที่พบได้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะแรก อาการเหล่านี้จะพบได้เมื่อผู้ป่วยอยู่ในช่วงที่สงบ หากมีการเคลื่อนไหว หรือมีสมาธิในการทำอย่างอื่นอาการเหล่านี้ก็จะหายไป
2. อาการปวดแสบร้อนในกระเพาะอาหารหรือมีอาการหลดไหลย้อน มีผู้ป่วยจำนวนมากมีอาการปวดในกระเพาะอาหาร หลังจากรับประทานยากระเพาะอาหารก็จะมีอาการดีขึ้น หรือหลังรับประทานอาหารเกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หลังเข้ารับการตรวจบ่อยครั้งจะมีโอกาสเกิดการตรวจผิดพลาดว่าเป็นเพียงแค่โรคกระเพาะอักเสบ ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหารได้ เป็นวิธีที่ใช้ในการตรวจโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะแรกที่ค่อนข้างแม่นยำมากที่สุด
3. ผอม ไม่มีแรง ผู้ป่วยเกิดอาการเบื่ออาหาร ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง
4. อุจจาระมีสีดำ หากพบว่าผู้ป่วยไม่ได้รับประทานยาหรืออาหารที่ผิดปกติแต่กลับพบว่าอจจาระที่พบมีสีดำ ควรอย่างยิ่งที่จะเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดโดยเร่งด่วน
อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งในระยะที่สามขึ้นไป
อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะหลังจะมีอาการที่รุนแรงกว่าผูป่วยในระยะแรกค่อนข้างมาก โรคมะเร็งได้พัฒนาเข้าสู่ระยะหลัง อาการที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะมีอาการที่นานขึ้นและยากต่อการบรรเทาอาการ นอกเหนือจากอาการเหล่านี้ อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะหลังยังมีอาการแบบใดอีกบ้าง
1. การลุกลาม สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารมีโอกาสของการลุกลามค่อนข้างสูง และมีการลุกลามผ่านทางต่อมน้ำเหลืองไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณโดยรอบและบริเวณที่ไกลออกไป และยังมีการลุกลามผ่านทางเลือดทำให้เกิดการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำ ตัวเหลือง ตับโต ไตโต อีกทั้งยังมีผลให้เกิดอาการกระเพาะทะลุ เลือดออกในกระเพาะ และเนื้อเยื่อกระเพาะอาหารตาย หากผู้ป่วยพบอาการเหล่านี้ อย่าถอดใจ การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมร่วมกับการทำจิตใจให้เบิกบาน จะทำให้ได้ผลลัพธ์ของการรักษาที่ดี
2. อาการอื่นๆ ของผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารที่มีรอยโรคบริเวณหูรูดของกระเพาะอาหาร ส่งผลให้การกลืนอาหารเป็นไปได้ยากขึ้น ร่วมกับอาการกรดไหลย้อน โรคมะเร็งกระเพาะอาหารทำให้เกิดอาการกระเพาะทะลุ ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในช่องท้องร่วมกับอาการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยบางส่วนยังมีอาการท้องเสีย อาการท้องผูก อาการปวดบริเวณท้องน้อย และมีไข้ เป็นต้น โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวได้ให้คำแนะนำแก่ท่านว่า โรคมะเร็งกระเพาะอาหารนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานให้แก้ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ควรที่จะเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะสามารถกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมกับท่านได้ หลีกเลี่ยงการพลาดโอกาศทางการรักษา
โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวได้ให้คำแนะนำแก่ท่านว่า โรคมะเร็งกระเพาะอาหารนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานให้แก้ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ควรที่จะเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะสามารถกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมกับท่านได้ หลีกเลี่ยงการพลาดโอกาศทางการรักษา
เนื่องมาจากการแพทย์ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง วิวัฒนาการด้านการตรวจโรคก็มีการพัฒนาสิ่งใหม่ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา วิธีการทางการตรวจที่ให้มาด้านล่างเป็นการตรวจที่สามารถยืนยันอาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวแนะนำว่า หากคุณไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารหรือไม่ จะต้องเข้าทำการตรวจในโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน
วิธีการตรวจวินิจฉัยมะเร็งกระเพาะอาหาร
1. การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร: การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการวินิจฉัยมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะเริ่มต้น สามารถแยกความแตกต่างของเนื้องอกทั่วไปและเนื้อเยื่อมะเร็งได้ ระบุชนิดของมะเร็งกระเพาะอาหาร ขอบเขตและการแทรกซึมของเนื้อเยื่อมะเร็ง ผู้ป่วยที่มีอาการกรดไหลย้อนหรือรู้สึกแสบร้อนในกระเพาะอาหาร ควรที่จะดำเนินการตรวจด้วยวิธีนี้ก่อน
2. การวินิจฉัยด้วยการฉายรังสีเอกซเรย์: การวินิจฉัยด้วยรังสีเอกซ์สามารถค้นหาเซลล์มะเร็งที่ซ่อนอยู่ในเยื่อบุหรือเยื่อบุผิว เหมาะกับการตรวจมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะลุกลาม จะพบได้ว่าการแสดงออกของมะเร็งกระเพาะอาหารมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับชนิดของมะเร็งกระเพาะอาหาร
3.CT scan: CT scan สามารถแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงขอบเขตและชนิดของเนื้องอก เนื้องอกที่อยู่รอบนอกของกระเพาะอาหาร มีการลุกลาม และสามารถตรวจดูได้ว่าเนื้องอกมีการลุกลามผ่านทางเส้นเลือดหรือไม่ ผู้ป่วยในระยะกลางและหลังมีการลุกลามหรือไม่
4. การส่องกล้องด้วยอัลตราซาวนด์: การส่องกล้องด้วยอัลตราซาวนด์เป็นเทคโนโลยีการวินิจฉัยที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งสามารถมองเห็นชั้นของผนังกระเพาะอาหารได้โดยตรง สามารถมองเห็นกระเพาะอาหารได้ทั้งหมด สามารถช่วยในการตรวจวินิจฉัยด้วยระบบ TNM ช่วยให้แพทย์ทำการวินิจฉัยกำหนดแผนการรักษาได้ เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา
โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวเตือนคุณว่า การตรวจอย่างละเอียดมีส่วนช่วยในการกำหนดแผนและเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา
จากสถิติข้อมูลโรคมะเร็งของ สหรัฐอเมริกา ได้แบ่งโอกาสการรอดชีวิตในระยะเวลา 5 ปี ไว้ดังนี้
โรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่Ⅰ:โอกาสรอดในระยะเวลา 5 ปีอยู่ที่ 88%--94%;
โรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่Ⅱ:โอกาสรอดในระยะเวลา 5 ปีอยู่ที่ 68%--82%;
โรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่Ⅲ:โอกาสรอดในระยะเวลา 5 ปีอยู่ที่ 18%--54%;
โรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่Ⅳ:โอกาสรอดในระยะเวลา 5 ปีอยู่ที่ ต่ำกว่า18%。
การแบ่งระยะของโรคมะเร็งตามระบบ TNM
การแบ่งด้วยระบบ TNM นั้นเป็นการแบ่งที่ใช้กันในปัจจุบัน T(Tumor) คือ เนื้องอก แบ่งเป็น ระยะ T1~T4 N(regional lymph Nodes) คือต่อมน้ำเหลือง หมายถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณโดยรอบได้รับผลกระทบหรือไม่ การแบ่งระยะแบ่งเป็น N0~N2 M(Metastasis) คือ การแบ่งตามขนาดของการลุกลาม การแบ่งระยะแบ่งเป็น M0~M1
การแบ่งตามระยะ TNM สามารถแบ่งได้อย่างระยะย่อยดังนี้
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะ 0 : Tis(มะเร็งที่แหล่งกำเนิด)ระยะ N0 ,ระยะ M0
แนวทางรักษาสำหรับระยะ 0 :การทำการผ่าตัด
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 1 : ระยะ T1~T2 ,ระยะN0~N1,ระยะM0——สามารถแบ่งเป็นระยะIAและระยะIB
แนวทางรักษาสำหรับระยะที่ 1 :การผ่าตัด,เทคนิคแบบเฉพาะจุด,เทคนิคPhotodynamic therapy (PDT) ,เทคนิคคีโมสีเขียว,เทคนิคธรรมชาติบำบัด,เทคนิคการฟื้นฟูด้วยยีนแบบเฉพาะจุด,เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีนและตะวันตก
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 2 : ระยะ T1~T4a ,ระยะN0~N3,ระยะM0——สามารถแบ่งเป็นระยะ IIA และระยะ IIB
แนวทางรักษาสำหรับระยะที่ 2 :การผ่าตัด,เทคนิคแบบเฉพาะจุด,เทคนิคPhotodynamic therapy (PDT) ,เทคนิคคีโมสีเขียว,เทคนิคธรรมชาติบำบัด,เทคนิคการฟื้นฟูด้วยยีนแบบเฉพาะจุด,เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีนและตะวันตก
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 3 :เป็นระยะ T ใดก็ได้,เป็นระยะ N ใดก็ได้, ระยะ M0 ——สามารถแบ่งเป็นระยะ IIIA ระยะ IIIB และระยะ IIIC
แนวทางรักษาสำหรับระยะที่ 3 :การผ่าตัด,เทคนิคแบบเฉพาะจุด,เทคนิคPhotodynamic therapy (PDT) ,เทคนิคคีโมสีเขียว,เทคนิคธรรมชาติบำบัด,เทคนิคการฟื้นฟูด้วยยีนแบบเฉพาะจุด,เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีนและตะวันตก
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 4 :เป็นระยะ T ใดก็ได้,เป็นระยะ N ใดก็ได้, ระยะ M1 —— มีการลุกลามของเชื้อมะเร็งไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
แนวทางรักษาสำหรับระยะที่ 4 :การผ่าตัด,เทคนิคPhotodynamic therapy (PDT),เทคนิคมีดนาโน,เทคนิคการใช้ความเย็น,เทคนิคธรรมชาติบำบัด,เทคนิคคีโมสีเขียว,เทคนิคการฟื้นฟูด้วยยีนแบบเฉพาะจุด,เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีนและตะวันตก
ระยะของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในแต่ละระยะแผนการรักษาก็จะแตกต่างกันออกไป ที่โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจว ทีมแพทย์สหสาขาจะทำการกำหนดแผนการรักษาด้วยอ้างอิงจากขนาด ระยะ และตำแหน่งของเนื้องอกเป็นหลัก ให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถเก็บกระเพาะอาหารไว้ได้ ลดความเจ็บปวดซึ่งเกิดจากการผ่าตัด การฉายแสงหรือการทำเคมีบำบัด
รายงานผลการตรวจวินิจฉัยโรคเป็นข้องอ้างอิงสำคัญสำหรับการกำหนดแผนการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่เนื่องมาจากรายงานผลการตรวจนั้นมีความซับซ้อนและยากต่อการทำความเข้าใจ ผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยโดยส่วนมากแทบจะดูไม่ออกเลยว่าผลการตรวจที่ได้ออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร เพื่อที่จะให้ผู้ป่วยและเข้าใจต่อผลการตรวจและโรคของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้นนั้น ทางเราได้จัดการรวบรวมการจัดการผลการตรวจอย่างง่ายเข้าไว้ให้ผู้ป่วยใช้เป็นข้ออ้างอิงในการดูผลการตรวจของตนเอง
1.อะไรคือมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดสความัส
มะเร็งกระเพาะอาหารชนิดสความัสเกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อสความัส หากมีความผิดปกติของเนื้อเยื่อมะเร็งชนิดสความัสในกระเพาะอาหารมีความเป็นไปได้สูงถึง 95% ว่าจะมีการกลายพันธุ์เป็นโรคมะเร็ง
2.โรคมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถติดต่อกันได้หรือไม่
โรคมะเร็งกระเพาะอาหารไม่ได้เป็นโรคติดต่อ แต่หากพบว่าบุคคลในครอบครัวของท่านเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรจทำการเข้าตรวจร่างกายเพื่อให้รู้ว่าท่านมีการติดเชื้อเอชไพโลไรหรือไม่ หากมีการพบการติดเชื้อควรที่จะเข้ารับทำการรักษาโดยเร็วที่สุด โดยเข้าทำการรักษาในแผนกอายุรกรรมระบบทางเดินอาหาร
3. CEA กับ CA199 หมายถึงอะไร
CEA มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกไปสู่ชนิดเลว ทังยังสามารถนำมาเป็นข้ออ้างอิงในการตรวจการพัฒนาของเนื้องอกนั้นๆ ในที่นี้รวมไปถึง ขนาด การแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง และการลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย และสามารถนำมาคำนวนอัตราของผลการรักษาได้อีกด้วย เช่นหากพบว่า CEA ลดลงไปอยู่ในระดับปกติติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นหมายความว่าการรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี หากขณะทำการรักษาค่า CEA ยังคงมีการเพิ่มขึ้นอยู่ แสดงให้เห็นว่าผลการรักษาไม่ได้มีผลในทางที่ดี
CA199 นั้นแสดงให้เห็นถึงขนาดของเนื้องอกนั้นๆ การแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง เป็นตัวบ่งชี้ผลการรักษาของผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร หากคุณภาพของ CA199เพิ่มสูงขึ้น นั่นหมายความว่าอัตราการรอดชีวิตของเนื้อเยื่อมะเร็งมีการลดระดับลงมา สามารถนำมาเป็นข้ออ้างอิงร่วมกับผลการตรวจอื่นๆในการวินิจฉัยว่ามะเร็งได้กลับมาเป็นซ้ำหรือไม่
4. ในการแบ่งระยะ TNM ในผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารหมายถึงอะไร ?
T (Tumor) เนื้องอก รวมไปถึงความหมายของขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก แบ่งระดับตั้งแต่ T1~T4
N(regional lymph Nodes) ต่อมน้ำเหลือง หมายถึงต่อมน้ำเหลืองโดยรอบได้รับผลกระทบหรือไม่ แบ่งระดับตั้งแต่ N0~N2
M(Metastasis) การลุกลาม หมายถึงการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆแบ่งระดับตั้งแต่ M0~M1
การแบ่งด้วยวิธีการเหล่านี้เรียกโดยรวมว่า TNM สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างอิงในการแบ่งระยะของมะเร็งได้
โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวได้แนะนำท่าน หากท่านพบปัญหาเกี่ยวกับการอ่านผลการตรวจ สามารถติดต่อกับทางเราได้ ทางเรามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำทางด้านการรักษา และให้ความช่วยเหลือในการอ่านค่าวินิจฉัย เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ท่านเสียใจในภายหลัง
แผนการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นตัดสินจาก ขนาด ตำแหน่ง ระดับของเนื้อเยื่อมะเร็งและความแข็งแรงของผู้ป่วย ที่โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจว ทางเรามีทีมแพทย์สหสาขาเพื่อทำการค้นหาทางเลือกทางการรักษาที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถเก็บกระเพาะอาหารเอาไว้ได้ หลีกเลี่ยงการตัดกระเพาะอาหาร ลดความทรมานจากการทำเคมีบำบัดและการฉายแสง
การรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหารด้วยวิธีดั้งเดิม
การผ่าตัดเพื่อตัดเอากระเพาะอาหารออก แผลขนาดใหญ่ ความเสี่ยงสูง มีอัตราการหลงเหลือของเนื้อเยื่อมะเร็งสูงทำให้มีอัตราการกลับมาเป็นซ้ำ ส่งผลต่อการทำงานของลำไส้และกระเพาะอาหาร ลดคุณภาพชีวิต เหมาะสำหรับผู้ป่วยในระยะแรกเท่านั้น
การฉายรังสีและทำเคมีบำบัด การรักษาด้วยวิธีนี้นอกจากจะฆ่าเซลล์มะเร็งแล้วนั้นยังมีผลข้างเคียงในการฆ่าเซลล์อื่นที่แข็งแรงอีกด้วย ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ผลข้างเคียงสูง ตัวอย่างเช่น ผมร่วง อาเจียน ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย
เทคนิคใหม่สำหรับการรักษาโรคมะเร็ง-การผ่าตัดส่องกล้อง
การรักษาด้วยเทคนิค DSA โดยแผลที่เกิดขึ้นมีขนาดแค่เพียง 1-2mm เท่านั้น โดยการใส่ยาส่งตรงเข้าที่บริเวณเนื้อเยื่อมะเร็ง ความเข้มข้นของยาที่เข้าถึงเนื้อเยื่อมีมากกว่าปกติ 6-8 เท่า ผลข้างเคียงต่ำ ทำการฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างตรงจุด
การรักษาโดยแสงชนิดเข้มข้น โดยการใช้สารไวต่อแสงร่วมกับแสงเลเซอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการฆ่าเนื้อเยื่อมะเร็ง เป็นการรักษาที่ไม่สร้างบาดแผล สามารถเห็นผลของการรักษาได้ภายใน 48-72 ชั่วโมง สามารถทำการฆ่าเซลล์มะเร็งที่มีขนาดเล็ก ลดการกลับมาเป็นซ้ำ ความทรมานจากการทำการรักษาต่ำ เหมาะที่จะใช้ในผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยเยาว์วัย และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งประจำโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวได้ให้คำแนะนำ วิธีการทีเหมาะสำหรับการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นมีหลายหลาย แต่จะต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ถึงจะมีผลในการรักษาและควบคุมโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้
การดูแลผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร
ในประเทศจีน อัตราการอุบัติของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารค่อนข้างสูง ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารมีสิ่งที่จะต้องระมัดระวังในหลายด้าน โดยสิ่งที่จะพบได้บ่อยและต้องระมัดระวังมีดังนี้
1.อาหารการกิน กระเพาะอาหารเป็นส่วนสำคัญในระบบย่อยอาหาร หากพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารแล้วนั้น จะพบได้ว่าความสามารถของการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้ป่วยบางส่วนได้ทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเอากระเพาะอาหารบางส่วนออก และมีผู้ป่วยบางส่วนที่จำต้องตัดกระเพาะอาหารออกทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้ความสำคัญกับอาหารการกิน แนะนำให้ผู้ป่วยที่ตรวจพบโรคมะเร็งกระเพาะอาหารควรหลีกเลี่ยง อาหารแข็ง อาหารเย็นจัด อาหารเผ็ดจัด หรืออาหารที่มีฤทธิ์กัดกระเพาะ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการไม่สบายตามมาได้ สำหรับอาหารประเภทข้าวเหนียว อาหารที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว อาหารที่มีความหนืด ควรที่จะลดหรือหลีกเลี่ยง เพราะอาหารเหล่านี้ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยผิดปกติ แนะนำให้กินอาหารที่มีความหลากหลาย รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา เนื้อสัตว์ต่างๆทำให้สุกเปื่อยแล้วค่อยรับประทาน อย่าทำเพียงแค่ดื่มน้ำซุป เพราะในน้ำซุปมีโปรตีนน้อยมาก มีผลต่อการฟื้นตัวน้อย
2.การออกกำลังกาย ควรที่จะออกกำลังกายเป็นประจำ อย่าเอาแต่นอนอยู่กับที่ การออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลต่อการฟื้นตัวของร่างกาย ผู้ป่วยสามารถเดินเล่น วิ่งเบาๆ หรือว่ายน้ำ เพื่อเพิ่มสมรรถนะของร่างกาย เพิ่มความอยากอาหารทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
3.การดูแลทางสภาพจิตใจ สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารนั้น ควรจะได้รับการดูแลด้านจิตใจควบคู่กันไปด้วย ผู้ป่วยควรที่จะพูดคุยกับเพื่อน ญาติหรือคนรู้จักในการระบายความทุกข์ ปรับอารมณ์ทัศนคติ พฤติกรรมเหล่านี้มีผลดีต่อการฟื้นตัวของร่างกาย
ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจะมีชีวิตได้ยาวนานแค่ไหน? จากข้อมูลซึ่งได้รับการรวบรวมจากสมาคมโรคมะเร็งของสหรัฐอเมริกา ระยะของมะเร็งที่เกิดขึ้นมีความสัมพันธ์กับอัตราการรอดชีวิตดังนี้
ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 1:88%--94%;
ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 2:68%--82%;
ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 3:18%--54%;
ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 4:ต่ำกว่า 18%。
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งของโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวได้ให้คำเตือนดังนี้ เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ผลข้างเขียง การบาดเจ็บลดลง ฟื้นตัวเร็ว ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยรวมต่อการรักษา การรักษาโดยสามารถเก็บรักษากระเพาะอาหารของผู้ป่วยเอาไว้ได้ ลดความเจ็บปวดซึ่งเกิดขึ้นจากการฉายแสง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีโอกาศการรอดชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น
หากท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถติดต่อเราได้ทันที เพื่อสอบถามและขอความคิดเห็นกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่:400-0086222 ฟรี
ประเภทของมะเร็งกระเพาะอาหาร
สามารถแบ่งประเภทของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารที่เกิดขึ้นได้ตามตำแหน่งของรอยโรคที่เกิดขึ้น ดังนี้ มะเร็งกล้ามเนื้อหูรูดส่วนท้ายของกระเพาะอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหารส่วนกลาง มะเร็งบริเวณทางเชื่อมเข้ากระเพาะส่วนท้าย ระยะแบ่งออกเป็นระยะใหญ่ๆ 2 ระยะ คือระยะเริ่มต้น กับระยะที่มีการกระจายตัวแล้ว และสามารถแบ่งได้ตามลักษณะของเนื้อเยื่อมะเร็งที่เกิดขึ้น สามารถแบ่งออกเป็น papillary adenocarcinoma , tubular adenocarcinoma , badly differentiated adenocarcinoma , signet ring cell carcinoma , mucosal adenocarcinoma , cirrhous carcinoma , undifferentiated carcinoma และ mixed carcinoma
การรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
การรักษาแบบดั้งเดิมที่สร้างความเจ็บปวดค่อนข้างสูง
การผ่าตัด:แผลผ่าตัดมีขนาดใหญ่ ความเสี่ยงสูง บริเวณที่เหมาะกับการผ่าตัดมีบริเวณจำกัด เหมาะสมกับการรักษาผู้ป่วยโรคมะรเงระยะเริ่มต้นเท่านั้น
การฉายแสง:ผลข้างเคียงสูง เช่น อาการผมร่วง อาเจียน เป็นต้น
เทคนิคการรักษาแบบอื่นๆ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา
การผ่าตัดส่องกล้อง: แผลที่ผ่าตัดมีขนาด 2-3 เซนติเมตร ผลข้างคียงน้อย ระดับความเจ็บปวดต่ำ
เทคนิค DSA: แผลมีขนาดเพียงแค่ 1-2mm คือการส่งยารักษาโรคมะเร็งตรงเข้าสู่จุดรอยโรคโดยตรง ระดับของยาที่ส่งผลต่อมะเร็งมีความเข้มข้นมากกว่าการใช้ทั้งร่างกาย 2 -8 เท่า ผลข้างเคียงต่ำ
การบำบัดรักษาด้วยแสงชนิดต่างๆ: ใช้แสงชนิดต่างๆเข้าทำการฆ่าเซลล์มะเร็ง เป็นการรักษาที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เห็นผลได้ใน 48-72 ชั่วโมง ทำลายจุดรอยโรคขนาดเล็กๆ ลดการเกิดกลับมาเป็นซ้ำของโรคมะเร็ง ความเจ็บปวดต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและผู้ป่วยสูงอายุ
การรักษาด้วยการบูรณาการระหว่างแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบัน: การบูรณาการเทคนิคด้านการรักษา ไม่ใช่แค่สามารถฆ่าเชื้อมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถปรับสมดุลของร่างกาย ลดผลข้างเคียง เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา
หากท่านต้องการทราบว่าโรคมะเร็งที่ท่านเป็นอยู่นั้นเหมาะกับเทคนิคการรักษาชนิดใด ทางเราสามารถช่วยคุณได้ สามารถนัดออนไลนหรือโทรได้ที่เบอร์:400-0086222
โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกว่างโจวมีโดดเด่นด้านการรักษาถึง 5 ด้านด้วยกัน
ทางด่วนสีเขียวสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
การรักษาด้วยเทคนิคการผ่าตัดส่องกล้องในระดับที่โดดเด่น
ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์
การบริการด้านการแพทย์ที่อบอุ่น
สภาพแวดล้อมที่ดี เหมาะแก่การทำการรักษา