โรคมะเร็งผิวหนัง

อาการของโรคมะเร็งผิวหนัง

1. มะเร็งผิวหนังชนิด(สความัส Squamous เซลล์มีรูปร่างแบน) ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์โรคขนคุด โรคเยื่อบุผิวเป็นผื่นสีขาวและโรคอื่นๆที่กลายพันธ์เป็นมะเร็งผิวหนังได้ โรคชนิดนี้มีลักษณะโตเร็ว ในระยะแรกเป็นแผลบนผิวหนัง เป็นตุ่มแข็งนูนขึ้นมาบนผิวให้สัมผัสขรุขระเมื่อลูบดู และดูรูปแบบเหมือนทรงกะหล่ำดอกหรือรูปแบบเหมือนผีเสื้อ ที่ลึกๆเข้าไปผิวหนังมักจะรุกลามเป็นพื้นใหญ่ มีลักษณะร้ายแรง โดยทั่วไปจะลามไปกระดูกและมีอาการเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น มีอาการปวดเป็นต้น หากโรคเป็นที่บริเวณศิรษะ จะมีอาการเป็นหนองเยอะมากและเลือดออกง่าย ลามไปต่อมน้ำเหลืองที่คอเร็ว

2. มะเร็งผิวหนัง Basal cell carcinoma เป็นมะเร็งผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด เชื่อว่าเกิดจากการสัมผัสแสงแดดมากเพราะชีวิตคนอยู่นอกบ้านมากกว่าในบ้าน มะเร็งชนิดนี้แพร่กระจายช้า หากตรวจพบโดยเร็ว ประสิทธิภาพทางการแพทย์ก็จะสูงขึ้น พบมากที่บริเวณที่เจอแสงแดดมากเช่น ใบหน้า จมูก หนังศีรษะ หู จมูก หน้าอก หลัง ขา มีด้วยกันหลายลักษณะดังนี้ ลักษณะจะเป็นก้อนกลมนูนสีขาว อาจจะเห็นเส้นเลือดที่ผิวของเนื้องอก หลายคนอาจจะมีลักษณะเหมือนสิวที่เป็นๆหายๆ บางคนจะมีลักษณะก้อนแบนๆเหมือนไขมัน

3.มะเร็งผิวหนังชนิด (สความัส Squamous เซลล์มีรูปร่างแบน) ส่วนใหญ่มักเป็นกับกลุ่มคนอายุ 30～50ปี มะเร็งผิวหนัง Basal cell carcinoma แพร่กระจายเร็ว สามารถเจริญเติบโตภายในระยะเวลาที่สั้น การระบาดของเซลล์มะเร็งช้า ส่วนใหญ่จะเกิดอาการที่ผิวริมฝีปากส่วนล่าง ลิ้น จมูก ปากช่องคลอดและจุดเยื่อหุ้มผิวหนัง รอบๆแผลจะนูนขึ้น แดงและแข็ง เป็นรูปร่างคล้ายห่วงกลมและทรงกะหล่ำดอก รอบๆบริเวณมีอาการอักเสบชัดเจน ต่อน้ำเหลืองใหญ่โตเป็นหลายโซน นอกจากนี้ เซลล์มะเร็งยังชอบเป็นอาการในรอบๆของดวงตา canthus จมูก แก้ม หน้าผากและหลังมือ รอบๆแผลเป็นลักษณะคล้ายขี้ผึ้งแห้ง มีรอยจุดขมวด เป็นสีดำ อาการอักเสบน้อยและอัตราการลุกลามหรือแพร่กระจายต่ำ โดวยส่วนใหญ่แล้วจะซึมไปยังเซลล์ชั้นลึกของร่างกาย

อาการของโรคมะเร็งผิวหนังทางคลินิก

1. สี:ของผิวหนังที่เป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนใหญ่มีสีน้ำตาล สีแดง สีดำ สีขาวหรือสีฟ้ารวมกันและไม่สม่ำเสมอ หากสีของฝ้าบนผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง

2. ขอบที่เป็นมะเร็งผิวหนัง:มักจะขรุขระ ไม่สม่ำเสมอ เป็นสัญญาณแสดงก้อนมะเร็งได้มีการค่อยๆพัฒนาตัวหรือส่งผลจากการสูญเสียทางสมรรถภาพของร่างกาย

3. อาการบนผิวหนัง: ผิงหนังไม่ราบรื่น ขรุขระและมีตกสะเก็ตที่เป็นลักษณะคล้ายเกล็ดปลา มีอาการเลือดหรือน้ำซึมออกจากผิวหนัง ก้อนเนื้อนูนขึ้นเหนือชั้นผิว

4. ลักษณะภายนอก:ผิวหนังที่บริเวณรอบๆมะเร็งมีอาการบวมน้ำหรือสีผิวเดิมนั้นขาดความเงางาม หรือผิวหนังปลี่ยนเป็นสีขาวหรือสีเทา

5. รู้สึกผิดปกติ: มีอาการรู้สึกผิวคัน ปวด แสบๆหรือกดแล้วเจ็บ

หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังโปรดติดต่อเราทันทีเราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งผิวหนังมาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาโดยละเอียด

โรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเป็นเนื้อร้ายชนิดหนึ่งที่เกิดจากผิวหนัง และเกิดบริเวณผิวหนังที่เจอแดดบ่อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจของมนุษย์ ถ้าทำการวินิจฉัยมะเร็งผิวหนังได้ทันเวลา จะมีผลประโยชน์อย่างมากต่อการรักษา แต่คนส่วนมากรู้สึกว่าการไปโรงพยาบาลนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ฉะนั้น ทางเราขอแนะนำวิธีการตรวจมะเร็งผิวหนังด้วยตนเองให้แก่ทุกท่าน

กระบวนการตรวจโรคมะเร็งผิวหนังด้วยตนเอง

๑ ยืนหน้ากระจกส่อง โดยการตรวจเริ่มจากฝ่ามือ นิ้วมือ ซอกนิ้ว ปลายแขน และต้นแขน ต่อมายกแขนขึ้น ซึ่งทำให้ข้อศอกพับงอ และตรวจบริเวณหน้า แขนด้านในและข้ออย่างละเอียด.

๒ ตรวจดูด้านหน้าของลำตัว โดยการตรวจเริ่มจากใบหน้า คอ หน้าอก ท้อง เนินหัวเหน่า(ชาย)/มอนส์ เวเนริส(หญิง)ต้นขาและน่อง

หลักการของการวินิจฉัยโรคมะเร็งผิวหนัง

ประการแรกควรระวังและเลี่ยงเลี่ยงสารที่สัมผัส สำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังประเภท chronic และผู้ที่ทำอาชีพต้องสัมผัสกับวัสดุกัมมันตรังสี coal tar แอสฟัลท์ เป็นต้น ถ้าหากว่าเกิดอาการ papule หรือ ผื่นที่ผิวหนัง ควรระวังโรคมะเร็งผิวหนังที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะอาการดังกล่าวนั้น ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญในการนิจฉัยโรคมะเร็งผิวหนัง

ประการที่สองหากมีอาการผิวหนังผิดปกติควรให้ความสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญของ โรงพยาบาลมะเร็งRoyalLee กวางโจว ชี้เห็นว่า หากมีขมวดแข็งขึ้นตามบริเวณผิวหนัง ขอบของขมวดมีการขยายตัวขึ้นและขยายตัวไปบริเวณรอบๆ ควรระวังอาจจะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะบุคคลที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรให้ความสำคัญอย่างมาก

สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญที่สุดของการวินิจฉัยโรคมะเร็งผิวหนังคือ การตรวจพยาธิสภาพ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งRoyalLeeกวางโจว ชี้แจ้งว่า หากผิวหนังของท่านมีอาการผิดปกติ ท่านควรไปโรงพยาบาลเฉพาะทางพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด

หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังโปรดติดต่อเราทันทีเราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งผิวหนังมาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาอย่างละเอียด

การแบ่งระยะของมะเร็งโรคผิวหนังแบ่งได้ออกเป็นสี่ระยะ

ระยะที่ 1 : รอยโรคมีความหนาของเซลล์ <1mm ไม่มีการลุกลามไปที่ผิวหนังโดยรอบ, ต่อมน้ำเหลืองหรือมีการลุกลามไปยังบริเวณที่ไกลออกไป อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปี ขึ้นอยู่กับความหนาของเนื้อเยื่อมะเร็ง (ในกรณีที่ความหนาของเนื้อเยื่อมะเร็ง<1mm และเนื้อเยื่อมะเร็งไม่มีการแตกออก ) อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปี มีมากกว่า 95%

ระยะที่ 2 : จุดกำเนิดของเนื้อเยื่อมะเร็งมีความหนา >1mm ไม่มีการกระจากของเซลล์มะเร็ง แบ่งเป็นระยะย่อยๆได้อีก 3 ระยะ ระยะIIA、ระยะIIB และ ระยะIIC ระยะIIAอัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปีอยู่ที่ 80% ระยะIICบวกกับมีอาการเซลล์มะเร็งแตกออกอัตราการรอดชีวิตที่ 5ปีอยู่ที่ 50%

ระยะที่ 3 : โรคลุกลามเข้าเนื้อเยื่ออื่นที่อยู่ติดผิวหนัง หรือลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียง(ยกตัวอย่างเช่นเซลล์มะเร็งที่มีต้นกำเนิดบริเวณต้นแขนจะมำการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ได้) อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปีจะขึ้นอยู่กับจำนวนการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง สำหรับผู้ป่วยซึ่งตรวจพบว่ามีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองเพียงแห่งเดียว(ด้วยการตรวจจากการส่องกล้องจุลทรรศน์พบว่าไม่มีการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง)จะพบได้ว่าอัตราการเกิดรอบชีวิตในระยะเวลา 5 ปีอยู่ที่ 70% แต่สำหรับผู้ป่วยที่พบว่ามีอัตราการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองมากกว่า 3 แห่ง อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปีจะอยู่ที่ 15% สามารถแบ่งระยะย่อยของมะเร็งในระยะนี้ได้ 3ระยะ(ระยะⅢA ระยะⅢB และระยะⅢC) ตามขนาดการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง

ระยะที่ 4: การลุกลามออกไปนอกเขตของต่อมน้ำเหลือง(ตัวอย่างเช่นมีการลุกลามไปยังผิวหนังบริเวณที่ไกลออกไป ต่อมน้ำเหลืองบริเวณอื่นๆของร่างกาย และอวัยวะอื่นๆเป็นต้น) อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปีอยู่ที่ 10% การแบ่งระยะของมะเร็งผิวหนังที่มีการลุกลามไปยังบริเวณผิวหนังทีไกลออกไปเรียกว่าระยะ MIA, หากมีการลุกลามไปยังปอดเรียกว่าระยะ MIB และหากมีการลุกลามไปยังกระดูก สมอง ตับหรืออวัยวะอื่นๆจะเรียกว่าระยะ MIC หากผู้ป่วยเข้าสู่ระยะ MIC แล้วจะเหลือเวลาน้อยมาก

แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากอาการและระยะโรคมะเร็งของผู้ป่วยเพื่อกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมมากขึ้น

ผลการตรวจโรคมะเร็งผิวหนังเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดในการกำหนดแผนการรักษา และเนื่องจากการอ่านผลการตรวจโรคมะเร็งผิวหนังจำต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก มีผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลเป็นจำนวนน้อยมากที่จะสามารถอ่านผลการตรวจได้อย่างถูกต้อง และเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติมีความเข้าใจผลการตรวจได้อย่างละเอียดมากขึ้น ทางเราจะมีการเตรียมเอกสารผลการตรวจที่สามารถเข้าใจได้ง่ายไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ

หากท่านมีความต้องการที่จะอ่านผลการตรวจโรคมะเร็งผิวหนังสามารถติดต่อขอนัดพบแพทย์ได้ทั้งทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของทางโรงพยาบาลยินดีอย่างยิ่งที่จะทำการอ่านผลการตรวจให้ท่านอย่างละเอียด

1. การขยายตัวของกระ : เกิดจากเซลล์เมลาโทนินภายใต้ผิวชั้นหนังกำพร้ามีการเจริยเติบโตมากขึ้น มีการเจริญเติบโตอย่างเป็นกลุ่มหรือกระจัดกระจายออกไป สารถพบได้ทั้งเซลล์ดีหรือเซลล์มะเร็ง

2.การแพร่กระจายขึ้นของเซลล์ที่ผิดปกติในผิวหนังชั้นนอก: เซลล์ที่มีการผลิตสีมีการเจริญเติบโตอย่างกระจัดกระจายหรือเติบโตแบบการรวมกลุ่ม การแพร่กระจายขึ้นของเซลล์ที่ผิดปกติในผิวหนังชั้นนอกซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนโดยปกติจะพบได้ในโรคมะเร็งผิวหนัง, ในกรณีที่เซลล์เมลาโทนินมีการขยายตัวแบบจับกลุ่ม ,การแพร่กระจายขึ้นของเซลล์ที่ผิดปกติในผิวหนังชั้นนอกในชั้นที่ต่ำลงไป

3.Tumor-infiltrating lymphocytes（การเกิดมะเร็งบริเวณเนื้อเยื่อลิมโฟไซด์)：เกิดการแทรกซึมและทำลายกลุ่มเซลล์ของมะเร็งบริเวณต่อมน้ำเหลือง ไม่รวมถึงต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณรอบนอกของเซลล์มะเร็ง เมื่อมีเซลล์ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมไปยังเนื้องอกมากขึ้น แสดงว่ามีการพยากรณ์โรคเป็นไปนทิศทางที่ดี

4.การลดหรือสลายไป: ยถึงร่างกายมีปฏิกิริยาตองสนองต่อสู้ต่อเซลล์มะเร็งผิวหนังด้วยตนเอง รวมถึงการรุกล้ำเซลล์มะเร็งจากเซลล์ลิมโฟไซต์, เนื้อเยื่อมะเร็งมีการลดจำนวนลงหรือหายไปในที่สุด มีปฏิกิริยาตอบสนองจากเซลล์เม็ดสีที่ชื่อ " melanophage" มีการสลายไปของเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวหรือชั้นผิวหนังบริเวณนั้นมีการหดตัวเล็กลง

5.การลุกลามในลักษณะของดีเอ็นเอ: จากการส่องกล้องตรวจพบว่ามีการพบการลุกลามบนผิวหนังชั้นบนหรือชั้นหนังกำพร้า มีการเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงหรือชั้นผิวหนังทีลึกลงไป โดยไม่มีการเชื่อมต่อกับรอยโรคดั้งเดิม การแบ่งตามมาตราฐานการแบ่งระยะของโรคมะเร็งของ AJCC ( American Joint Committee on Cancer) โดยไม่ต้องดูที่ขนาดและระยะห่างของเนื้อเยื่อมะเร็ง

6.การลุกลามของเนื้อเยื่อมะเร็งแบบทั่วไป: โดยมีความห่างจากรอยโรคดั้งเดิมไม่เกินกว่า 2 เซนติเมตร สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าหรือมีการกระจายภายใต้เนื้อเยื่อผิวหนัง

7. ต่อมน้ำเหลืองเซนตินอล : มีการลุกลามของเซลล์มะเร็งผ่านท่อของต่อมน้ำเหลือง ในระยะแรกของการค้นพบในมะเร็งผิวหนังชนิดทั่วไป มะเร็งผิวหนังชนิดในบริเวณต่างๆจะเกิดการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองเซนตินอลที่เชื่อมโยงกันเท่านั้น

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งผิวหนัง สมารถติดต่อสอบถามได้ทั้งทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ ทางเรา

มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเตรียมไว้สำหรับให้คำปรึกษากับท่านโดยเฉพาะ โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกว่างโจวให้คำแนะนำ : ด้านบนที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการอ่านค่าผลการตรวจโรคมะเร็งผิวหนังเท่านั้น หากท่านต้องการอ่านค่าผลการตรวจอย่างละเอียดมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จำต้องหาแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็งในการทำการอ่านค่าผลการรักษาให้แก่ท่าน เพื่อที่จะให้แน่ใจได้ว่าผู้ป่วยได้รับคำแนะนำทางการรักษาที่ถูกต้อง ป้องกันการวินิจฉัยผิดพลาดซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดได้

皇家丽-体表肿瘤专科在国内最早从事整形美容外科专业的知名专家修志夫教授带领下，以中山大学孙逸仙纪念医院为技术支持单位，秉持着根治性治疗、美观、功能保护、避免并发症等四大原则，建设肿瘤专家与整形美容专家多学科诊疗合作平台，在消除疾患同时，最大程度帮助患者恢复其美观的外形。

体表恶性肿瘤的治疗

其治疗方法遵循扩大切除、根治性原则，依据肿瘤的性质和病情决定是否选择放、化疗等综合治疗手段。随着社会的不断进步，患者在关注疾病治疗效果的同时，更加在意手术对容貌的影响。皇家丽在体表恶性肿瘤治疗的特色方面，尤其擅长各种色素痣的治疗、血管瘤的治疗、淋巴管瘤治疗、脂肪瘤治疗、皮脂腺囊肿治疗、神经纤维瘤治疗等。耳廓缺损再造，疤痕整形，乳房重建术，保乳手术等。

较其他科室，皇家丽-体表肿瘤专科优势在于：

1、对恶性肿瘤进行扩大性切除，可以最大程度切除癌变组织，从而避免肿瘤细胞的扩散和复发。

2、设计手术方案的同时，考虑修复重建组织器官功能；同时使术区有较好的软组织覆盖，为后期放、化疗等提供良好条件。

3、采用整形外科技术缝合，可最大程度的减少、隐藏术后瘢痕，患者术后满意度高。

总之，恶性肿瘤重在早诊断、早治疗，同时考虑利用整形外科的适当治疗可以彻底清除体表的肿瘤病灶，达到功能康复和外形改善。

เทคโนโลยีทางการแพทย์สำหรับการรักษาโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน

1.การผ่าตัด : ①การผ่าตัดแบบดั้งเดิม：เป็นการผ่าตัดเอามะเร็งและเซลล์มะเร็งบริเวณใกล้เคียงออกไป ②การผ่าตัดเพื่อนำเซลล์มะเร็งออกให้มากที่สุด：เป็นวิธีการใช้ในการผ่าตัดในส่วนของมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนออกหมดได้ ซึ่งหลังการผ่าตัดแล้วก็จะใช้วิธีอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและยืดอายุของผู้ป่วยให้ดีขึ้นและยาวนานขึ้น ③การผ่าตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของแขนและขาออกไป：เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มากและมีอาการที่รุนแรง สามารถพิจารณาการเลือกใช้การผ่าตัดวิธีนี้

2.การฉายแสง : การฉายแสงเพื่อยับยั้งการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งที่มีความรู้สึกไวจากรังสี สามารถทำได้ก่อนการผ่าตัดหรือหลังการผ่าตัด

3.การให้ยาเคมี : โดยการใช้ยาทำลายเซลล์ร้าย แต่เพื่อได้รับผลลัพธ์ที่ดี ปริมาณของการใช้ยาจะค่อนข้างมาก และโดยปกติผลข้างเคียงของยาก็จะรุนแรงตามไปด้วย

การผ่าตัดเฉพาะจุดเป็นแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆในหลายปีมานี้ การใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพเป็นตัวนำ โดยใช้ยาที่มีการพัฒนา เทคโนโลยียีนชีวภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการทำลายมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย การส่งเสริมการปลูกเซลล์ใหม่ และทำให้การทำงานกลับมาเป็นปกติ มีจุดเด่นคือเป้าหมายแม่นยำ บาดแผลเล็ก การบาดเจ็บน้อย และมีประสิทธิภาพ เป็นต้น

体表恶性肿瘤在临床采用肿瘤切除联合皮瓣修复术予以治疗后，还是存在术后出现出血、感染、皮瓣坏死、瘢痕增生等并发症的风险，从而降低创面愈合质量，影响局部美观及功能。

为提高体表恶性肿瘤切除及皮瓣修复术后创面的愈合效果， 广州皇家丽肿瘤医院专家提出，对体表肿瘤切除＋皮瓣修复术后患者在进行常规护理的同时，还应进行术后出血、创面感染等并发症的防治性对症护理，并在过往的诊治案例当中，获得非常良好的效果。

术后并发症的护理

1、皮瓣坏死

皮瓣局部出现颜色苍白、麻木、皮温下降时，予以局部保温，并将室温调节至 ２５℃，同时遵医嘱予以扩容、扩血管、高压氧等治疗；皮瓣局部出现紫色、淡红色或青紫色斑点等皮瓣循环障碍表现时，于患侧肢体下放置软垫，以抬高患肢，加强血液回流，同时检查引流是否通畅，加压是否适度。

２、术后出血

术后数小时内出现早期出血时，给予创面适度加压包扎，并予以密切观察，一旦发现皮瓣下出现血肿，应立即拆除缝线，清除血肿，必要时进行手术探查；术后５～１４ｄ出现创面疼痛加剧、敷料外渗鲜血，且渗血区域逐渐扩大等继发性出血时，及时采取局部压迫、加压包扎等措施予以紧急止血，并通知主治医生检查处理。

３、创面感染

正常情况下，术后２～３ｄ患者会自觉创面疼痛逐渐减轻，但若出现疼痛加重、体温升高、ＷＢＣ升高、敷料异味及创面分泌物增多，则提示可能有感染发生，应予以生理盐水清洗及碘伏消毒；若创面出现水疱，应于酒精消毒后， 用１ｍＬ无菌注射器于水疱低位穿刺，放出疱液，并覆盖无菌干纱布；愈合良好的头面部创面，可于换药３ｄ后采用暴露疗法，以保持创面清洁干燥，避免 感染。

４、切口开裂

一旦出现切口开裂，应及时使用无菌纱布加压包扎，并立即通知主治医生予以重新缝合；过度肥胖或创面张力过大的患者予以绷带或网状弹力头套加压扎， 并指导患者活动或排便时按压创面，避免切口裂开。

５、瘢痕增生

愈后皮肤已出现瘢痕增生者，可予以瘢痕内注射曲安奈德，硅凝胶、疤痕软膏局部按摩等方法治疗，以软化或消除瘢痕；拆除缝线后，医务人员也可指导患者采用局部按摩及穿戴弹力衣等方法防治瘢痕增生。

恶性体表肿瘤患者在追求治疗疾病的同时，还渴望能够最大程度保留局部功能及美观，尤其是面部等暴露部位的肿瘤患者对术后效果期望较高。广州皇家丽-体表肿瘤专科，为患者的提供了最完备的诊治方案以及术后护理预案，让患者再也无惧体表恶性肿瘤带来的创伤。

โรคมะเร็งผิวหนังคืออะไร?

มะเร็งผิวหนังคือ การที่บริเวณผิวของเราเกิดเนื้องอกร้ายขึ้น โดยมักจะเกิดบริเวณผิวหนังที่เจอแดดบ่อย เช่น ศีรษะ ใบหน้า คอ มือ หลัง เป็นต้น อัตราการเกิดรวมประมาณ 81.1%

กลุ่มคนที่มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังมากที่สุด

มะเร็งผิวหนังมักจะเกิดกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 51 – 60 ปี จะมีโอกาสเป็นโรคมากที่สุด และเพศชายมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิง ในอัตราส่วนระหว่าง 2 : 1 ซึ่งกลุ่มคนผิวขาวจะมีอัตราความเสี่ยงสูงสุด

อาการของมะเร็งผิวหนังมีอะไรบ้าง?

มะเร็งผิวหนังชนิด Basal cell Carcinoma ( BCC ) กับมะเร็งผิวหนังชนิด Squamous cell Carcinoma ( SCC ) นั้นมีอาการที่คล้ายคลึงกันมาก ช่วงแรกเริ่มจะมีเพียงจุดเล็กๆ ขรุขระบริเวณผิว แต่จะแดงหรือขาวกว่าบริเวณรอบๆเล็กน้อยหรืออาจจะเป็นก้อนเนื้อขนาดเล็กหรือมักมีเลือดออก ได้ง่าย แผลขนาดเล็กที่หายช้าหรือไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังโปรดติดต่อเราทันทีเราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมมาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาอย่างละเอียด

วิธีการตรวจมะเร็งผิวหนังด้วยตนเอง

1. ตรวจดูฝ่ามือ นิ้วมือ ช่วงระหว่างนิ้วมือ ด้านหน้าและหลังของแขน จากนั้นยกแขนทั้งสองข้างขึ้น งอข้อต่อข้อศอก สังเกตด้านในของปลายแขนและบริเวณข้อต่อ

2. ตรวจดูด้านหน้าของลำตัว : บริเวณท้อง รวมทั้งเนินหัวเหน่าและต้นขา หน้าแข้ง ใบหน้า ลำคอและหน้าอก

3. ตรวจดูด้านข้างของลำตัว : ให้ยกมือขึ้น ตรวจบริเวณฝั่งซ้ายก่อน แล้วจึงตรวจฝั่งขวา

4. หันหลังให้กระจก ถือกระจกเล็กๆ อีกอันไว้ในมือ ส่องดูบริเวณด้านหลังของลำคอ หลัง สะโพกและส่วนต่างๆ ของแขนทั้งสองข้าง หากไม่สะดวกสามารถให้สามี ภรรยาหรือเพื่อนมาช่วยตรวจได้

5. ให้ผู้อื่นช่วยใช้หวีมาแสกเส้นผมออก เพื่อสะดวกในการตรวจดูผิวหนังที่ศีรษะว่ามีส่วนใดน่าสงสัยหรือไม่ ถ้าเป็นเพศชาย ตอนที่ผมกำลังสั้นก็สามารถคลำตรวจช้าๆ ด้วยตนเองได้

6. นั่งลง แล้วตรวจดูบริเวณหลังเท้า ส้นเท้า นิ้วเท้าและฝ่าเท้า จากนั้นให้ใช้กระจกมาส่องด้านหลังของขาทั้งสองข้างว่ามีส่วนใดมีอาการของโรคหรือไม่ และเมื่อพบว่ามีส่วนใดที่ผิดปกติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที

บุคคลประเภทใดที่มักจะเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง?

1. ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ

2. ในวงศ์ตระกูลมีคนเคยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่าสองคนขึ้นไป

3. สีของลูกตาค่อนข้างอ่อน

4. เส้นผมออกเป็นสีแดงและทอง

5. บนผิวหนังเกิดจุดต่างๆ ได้ง่าย

6. ช่วงวัยเด็กเคยตากแดดจนผิวไหม้

7. ผู้ที่มักสัมผัสกับยางมะตอย น้ำมันดิน น้ำมันแร่ ในการทำงานบ่อยๆ

สามารถวินิจฉัยได้อย่างไร?

เนื่องจากมะเร็งผิวหนังเกิดขึ้นบนผิวของร่างกายขั้นตอนแรกของการวินิจฉัยจึงเป็นการตรวจดูด้วยสายตาของแพทย์ด้านผิวหนังแพทย์ด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์เพียงแค่ดูด้วยตาก็สามารถทราบได้ทันทีว่าเนื้องอกบนผิวหนังนั้นเป็นเนื้อดีหรือไม่ หากแพทย์สงสัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง ก็จะตัดเนื้อเยื่อส่วนเล็กๆ ส่งไปห้องทดลองเพื่อทำการตรวจคัดกรองด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อให้ความชัดเจนว่าเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่

วิธีการรักษามีวิธีการใดบ้าง

การรักษาด้วยการผ่าตัด:การผ่าตัดถือเป็นตัวเลือกแรกสำหรับโรคมะเร็งผิวหนังหากการผ่าตัดนั้นมีความเหมาะสม ก็จะได้รับผลลัพธ์ที่ดี

การรักษาด้วยคีโมบำบัด : การให้ยาเคมีก็เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนัง

การรักษาด้วยการฉายรังสี : ผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังที่สูงอายุและร่างกายอ่อนแอนั้น ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัด โดยปกตินั้นจะรักษาโดยใช้วิธีการฉายรังสี ซึ่งระหว่างการรักษาควรให้ความสำคัญในการป้องกัน เนื้อเยื่อโดยรอบด้วย

เทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง : เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็กจะมาทดแทนในส่วนที่การผ่าตัด การฉายรังสีและการทำเคมีแบบดั้งเดิมให้ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ในขณะที่กำจัดเซลล์มะเร็งก็สามารถฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีกว่าสามารถยับยั้งการกลับมาเป็นซ้ำและการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้ มีข้อดีคือ ไม่ต้องผ่าตัด และเสียเลือดน้อย เป็นต้น

ทั้งยังสามารถให้การรักษาด้วยแผนแผนจีนได้อีกด้วย แพทย์แผนจีนสามารถทดแทนในส่วนที่การผ่าตัด การฉายรังสีและการทำ เคมีบำบัดให้ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการฉายรังสีและเคมีบำบัดแล้ว ยังช่วยลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัดและการฉายรังสีอีกด้วย สามารถเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย เพื่อบรรลุผลการรักษาอย่างมีประสิทธภาพมากขึ้น

วิธีการดูแลทางด้านโภชนาการผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังมีอะไรบ้าง?

1. หลักโภชนาการหลังผ่าตัด : หลังจากทำการผ่าตัดมะเร็งผิวหนังแล้วจะเสียเลือดมาก จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่บำรุงเลือด เช่น ข้าวJaponica ถั่วแขก พุทรา เห็ดหอม แครอท โจ๊กรากบัว ถั่วต่างๆ เป็นต้น

2. หลักโภชนาการเมื่อใช้วิธีการฉายรังสี: ในการฉายรังสีจะทำให้ของเหลวในร่างกายถูกเผาผลาญไปมาก จึงควรรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุง เช่น ผักและผลไม้สด อาทิ ผักปวยเล้ง ผักกาดขาว รากบัว สาลี่ขาว กล้วยหอม องุ่น เป็นต้น

3. หลักโภชนาการเมื่อให้ยาเคมี: ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุง เช่น เห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม กระจับ เป็นต้น

การบริบาลผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง?

1. ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการตากแดด

2. หากพบว่ามีอาการน่าสงสัยว่าโรคจะกลับมาเกิดซ้ำ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

3. มะเร็งผิวหนังมีแนวโน้มการเกิดหลายอย่าง ในขณะที่บริบาลผู้ป่วย จึงควรพิจารณาดูผิวหนังทุกๆ บริเวณอย่างละเอียด โดยเฉพาะหลังใบหูและบริเวณที่ลับ

สามารถได้รับการสนับสนุนด้านใดได้บ้าง

จากผลการปฏิบัติแสดงให้เห็นว่า การบริการทางการแพทย์แบบบูรณาการหลายแขนง เช่น แผนกผ่าตัดเนื้องอก แผนกอายุรกรรมเนื้องอก แผนกพยาธิวิทยา แผนกภาพถ่ายทางการแพทย์ วิสัญญีแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลเป็นต้น สามารถช่วยกำหนดแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสม และประหยัดที่สุดให้แก่ผู้ป่วยได้ ช่วยทำให้ผลลัพธ์ทางการแพทย์ของผู้ป่วยมะเร็งให้ดียิ่งขึ้น

โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวมีระบบการบริการทางการแพทย์ แบบบูรณาการหลายแขนง ซึ่งเป็นการบริการอย่างครบวงจร ให้การวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยแบบบูรณาการ โรงพยาบาลเราได้ ให้บริการด้านการแพทย์ที่ครบวงจรให้แก่ผู้ป่วย อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานและประสิทธิภาพทางการแพทย์ให้สูงขึ้น โดยไม่เพิ่มภาระให้แก่ผู้ป่วย เรามีช่องทางการติดต่อระหว่างแพทย์และผู้ป่วยมีหลายช่องทาง เช่น การติดต่อสอบถามทางออนไลน์ ทางอีเมล์ ทางโทรศัพท์ หรือการพบปะกัน เพื่อขยายช่องทางการบริการให้คำปรึกษา สามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งพิชิตกับโรคมะเร็งร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ผู้ป่วยจะได้พบนั้นประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ และล่ามแปลภาษา เป็นต้น โรงพยาบาลเราตอบสนองความต้องการในทุกระดับชั้นแก่ผู้ป่วยจากประเทศต่างๆ ผู้ป่วยสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนจะทำให้ผู้ป่วยให้ความร่วมมือกับทางโรงพยาบาลได้ดียิ่งขึ้น

หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังโปรดติดต่อเราทันทีเราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งผิวหนังมาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาอย่างละเอียด