หากคุณมีปัญหาการนอนหลับเรื้อรัง มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็ง!!
ในระยะหลัง มีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการนอนหลับไม่เพียงพอและการนอนหลับที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง การมีภูมิคุ้มกันที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นการดูแลเรื่องอาหารและการนอนหลับให้มีคุณภาพจึงมีความสำคัญมากกว่าการใช้ยาเพียงอย่างเดียว
ต่อมน้ำเหลืองโตเป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่ก็อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต่อมน้ำเหลืองนั้นปกติหรือผิดปกติ? มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมักพบในกลุ่มไหน? วินิจฉัยและรักษายากหรือไม่?
ในศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านโลหิตวิทยา มักพบผู้ป่วยที่ไปตรวจสุขภาพหรือคลำมีก้อนในร่างกาย จึงไปตรวจและพบว่าต่อมน้ำเหลืองบวม ทำให้เกิดความกังวลว่าจะกลายเป็นมะเร็ง มีความแตกต่างระหว่างการรักษาต่อมน้ำเหลืองกับก้อนอื่นหรือไม่? เกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือไม่?
ต่อมน้ำเหลืองเป็นหนึ่งในอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วต่อมน้ำเหลืองที่บวมมักเป็นชนิดที่ไม่ร้ายแรง และสามารถหายได้เองภายในระยะเวลาหนึ่ง
- ต่อมน้ำเหลืองที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1 ซม. (เช่น ขนาด 0.9 ซม. x 0.7 ซม. หมายความว่า เส้นผ่านศูนย์กลางคือ 0.7 ซม.)
- โครงสร้างขอบเขตระหว่างผิวหนังและไขกระดูกไม่ชัดเจน หรือมีเสียงสะท้อนไม่สม่ำเสมอ
- สัญญาณการไหลเวียนของโลหิตที่ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
กลุ่มคน 3 ประเภทที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ควรระวังหากมีอาการนอนหลับไม่สนิทในระยะยาว!
อายุที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเนื้องอก เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดเบอร์กิต (Burkitt) ซึ่งมีความรุนแรงสูง มักพบในวัยรุ่นและผู้ป่วยอายุน้อย ในขณะที่มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดไม่รุนแรงมักพบในผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
กลุ่มคน 3 ประเภทต่อไปนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง:
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และโรคระบบภูมิคุ้มกัน: เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคแพ้ระบบที่มีผื่นแดง รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิดและผู้ติดเชื้อ HIV
ผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน: เช่น ผู้ป่วยที่ผ่านการปลูกถ่ายอวัยวะ
ผู้ที่ทำงานในสาขาที่ใช้รังสีหรือสัมผัสสารเคมีอันตราย: เช่น ผู้ที่ใช้สารเคมีอันตราย (สีย้อมผม) โดยไม่มีการป้องกันเป็นเวลานาน
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งที่มีความสามารถในการ "หลบซ่อน" สูง ทำให้เกิดการวินิจฉัยผิดพลาดได้ง่าย บางครั้งผู้ป่วยอาจต้องร่วมมือในการตรวจสอบหลายครั้งอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจในการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแต่ละประเภทมีระดับความยากในการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด B เซลล์สามารถวินิจฉัยได้ง่ายกว่า แต่ชนิด T เซลล์มีการกระจายของเซลล์มะเร็งที่ซับซ้อน ทำให้ยากที่จะเจาะชิ้นเนื้อเพื่อตรวจสอบเซลล์มะเร็งที่เพียงพอ การเห็นลักษณะทั้งหมดของต่อมน้ำเหลืองจึงทำได้ยาก เทคโนโลยีในการเจาะชิ้นเนื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญ การใช้เข็มขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจสอบหลายครั้งและลดภาระในการตรวจ