(+86) 18613012387

ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมอยู่ในระยะลุกลามกลับมาเดินได้อีกครั้ง

วันที่เผยแพร: 2023-05-24

ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมอยู่ในระยะลุกลามไปยังกระดูก ทำการผ่าตัดด้วยเทคนิครังสีร่วมรักษา

“คุณรู้มั้ยว่าก่อนหน้านี้เป็นเวลาสี่เดือนฉันนอนอยู่กับที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย หมอที่บ้านเกิดของฉัดบอกว่าฉันจะต้องนอนติดเตียงไปอย่างนี้อีกครึ่งปี เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ฉันได้เข้ารับการรักษากับนายแพทย์หวงเต๋อเหลียงที่โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจว ตอนนี้ฉันสามารถลุกขึ้นเดินและทำธุระส่วนตัวด้วยตัวเองได้แล้ว มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตของฉันอีกครั้ง ต้องขอบคุณนายแพทย์หวงเต๋อเหลียงเป็นอย่างยิ่ง” คุณเติ้งซึ่งกำลังจะออกจากโรงพยาบาลในไม่อีกไม่กี่วัน มีหน้าตาที่แจ่มใสกำลังเล่าประสบการณ์การรักษาของตนเองให้กับเพื่อนผู้ป่วยได้ฟัง

ภาพของคุณเติ้งที่กำลังจะออกจากโรงพยาบาลในเร็ววันนี้

กลับไปนึกถึงเมื่อสิบวันก่อนที่ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่าย ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ สายตาของคุณเติ้งก็เต็มไปน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่

เริ่มต้นกับเส้นทางใหม่ของการต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านมชนิด TNBC ( มะเร็งเต้านมชนิดที่ไม่มีตัวตอบรับกับฮอร์โมน) ระยะลุกลามอีกครั้ง

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2564 คุณเติ้งเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในเมืองจิงโจวมณฑลหูเป่ยและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านม หลังจากนั้นก้ได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็งเต้านมแบบสงวนเต้า + การผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองออก หลังการผ่าตัดก็ได้ทำการฉายแสงเพื่อความมมั่นคงของการรักษา จากเดิมที่คิดว่าการรักษาได้ประสิทธิภาพที่ดี แต่คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ครึ่งปีหลังการรักษา โรคมะเร็งก็กลับมาเป็นซ้ำ โดยมีการลุกลามไปยังบริเวณเอว ขาซ้ายบน ส่วนหลัง โดยความเจ็บปวดในบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ภาพที่คุณเติ้งนั่งอยู่บนรถเข็น

และในที่สุดคุณเติ้งก็ทนกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่ไหว ต้องเข้ารับการรักษาเพื่อระงับความเจ็บปวดที่โรงพยาบาล แพทย์ในโณงพยาบาลได้ทำการรักษาด้วยวิธีการต่างๆให้แก่คุณเติ้งเพื่อลดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝังเข็ม และการใช้ยาระงับความเจ็บปวดชนิดต่างๆ แต่ความเจ็บปวดไม่ลดระดับลงเลย อีกทั้งอาการที่เกิดขึ้นยังมีการลุกลามไปกดทับเส้นประสาททำให้เดินไม่ได้ ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ คุณเติ้งจึงต้องทำการย้ายไปโรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แพทย์ได้กล่าวกับเธอว่าอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นจากที่เนื้อเยื่อมะเร็งมีการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นของร่างกาย

ภาพของคุณเติ้ง

เนื่องมาจากเนื้อเยื่อมะเร็งลุกลามไปยังกระดูกส่วนบั้นเอว กระดูกสันหลัวส่วนก้นกบ ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลัง นอกจากจะทำให้สูญเสียการควบคุมระบบขับถ่ายแล้วนั้น ยังทำให้เกิดอาการบวมบริเวณช่องท้อง และความเจ็บปวดรุนแรงบริเวณน่องช่วงบน

คุณเติ้งได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้า เลยได้รับข้อมูลจากเพื่อนที่ทำธุรกิจว่าให้ลองเดินทางมาพบนายแพทย์หวงเต๋อเหลียงที่โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจว เนื่องจากนายแพทย์หวงเต๋อเหลียงมีประสบการณ์สูงด้านการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม หลังจากได้รับข้อมูลดังกล่าว ญาติของคุณเติ้งก็พาคุณเติ้งเข้ามารับการรักษาที่โณงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีโดยทันที

หลังจากเข้าทำการรักษาด้วยวิธีรังสีร่วมรักษาสองครั้ง ก็เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

จากการนอนกับที่เป็นเวลานานคุณเติ้งจึงมีอาการเส้นเลือดขอด และเส้นเลือดบริเวณท่องล่างของร่างกายอุดตัน นายแพทย์หวงเต๋อเหลียง ได้ทำการผ่าตัดเพื่อใส่บอลลูนให้กับเส้นเลือด. บริเวณช่วงอก ป้องกันการตรวจหลอดเลือดอุดตันบริเวณปอด เพื่อความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่งของคุณเติ้ง ในขณะเดียวกันก็ทำการผ่าตัดรักษาอาการหลอดเลือดอุดตันบริเวณข้างล่างของร่างกายด้วยการใส่สายสวนหลอดเลือด แก้ปัญหาอาการบวมบริเวณช่วงล่างของร่างกาย หลังจากนั้นจึงทำการผ่าตัดด้วยวิธีการรังสีร่วมรักษา

“หากวันนั้นคุณหมอไม่ได้ทำการผ่าตัดรักษาให้แก่ฉันแบบเร่งด่วน ฉันคิดว่าวันฉันคงไม่รอดชีวิตจนถึงวันนี้อย่างแรก คุณหมอเป็นคนดึงฉันออกจากมือของยมทูต ดิฉันรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก ความละเอียดช่วยชีวิตฉันไว้” เมื่อพูดถึงตรงนี้คุณเติ้งก็ตื้นตันจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก “หากพลาดไปอีกนิดเดียวครอบครัวของฉันคงจะพังทลายเป็นแน่” ภาพของคุณเติ้ง

หลังจากทำการรักษาด้วยรังสีรักษามาแล้วสองครั้ง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเนื่องจากเนื้องอกเข้ากดทับเส้นประสาทก็ดีขึ้นเป็นอย่างมาก มีความอยากอาหารมากขึ้น หลังรับประทานอาหารก็สามารถนั่งคุยกับเพื่อนคนไข้คนอื่นๆได้ หลังจากเพื่อนผู้ป่วยเห็นคุณเติ้งมีสีหน้าดีขึ้นก็แนะนำให้คุณเติ้งลองลุกขึ้นเดินด้วยตนเอง คิดไม่ถึงเลยว่าพอลองลงจากเตียงก็สามารถยืนเองได้ หลังจากได้เห็นดังนั้นพี่สาวที่คอยช่วยดูแลก็ตื้นตันเป็นอย่างมาก

หลังจากที่พี่สาวของคนไข้เห็นคนไข้ยืนได้แล้ว ก็บอกให้คนไข้ลองเดินด้วยตนเอง คุณเติ้งก็สามารถเดินด้วยตนเองช้าๆด้วยการเกาะไปกับที่จับบริเวณกำแพง สร้างความดีใจให้กับญาติของผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่ง ญาติของคุณเติ้งได้นำวิดีโอที่คุณเติ้งเดินได้โพสต์ลงโซเซียลมีเดีย หลายคนที่เห็นต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีและ ชื่นชมกับความสามารถทางการแพทย์ของนายแพทย์หวงเต๋อเหลียงเป็นอย่างยิ่ง

ภาพที่คุณเติ้งกำลังจะออกจากโรงพยาบาล

ไม่ยอมแพ้ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นได้

ตั้งแต่เข้ามาในโรงพยาบาลในสภาพที่ต้องนอนติดเตียง จนถึงสามารถเดินออกจากโรงพยาบาลด้วยตนเอง จากประสบกาณ์ทั้งหมดทำให้รู้สึกต่างๆพรั่งพณุเข้ามาในเวลาเดียวกัน “ ปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นพาะบางคนเท่านั้น แต่ว่าอย่ายอมแพ้ จนกว่าจะได้พบกับแพทย์ที่เหมาะสมกับคุณ ด้วยแผนการรักษาที่ดี ผู้ป่วยของเราอาจจะมีโอกาสได้พบกับโอกาสที่ดีทางการรักษา ก้าวข้ามลิมิตของตนเอง ต้องขอบคุณนายแพทย์หวงเต๋อเหลียงเป็นอย่างมากที่ให้กำลังใจแก่ฉันมาโดยตลอด ความไว้ใจซึ่งกันและกันถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” คุณเติ้งได้ให้กำลังใจแก่ตนเองและเพื่อนผู้ป่วยด้วยกัน

โรคมะเร็งเต้านมของคุณเติ้งเข้าสู่ระยะลุกลาม นอนติดเตียงไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายมาเป็นเวลาสามเดือน หลังเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลของเราเป็นเวลา 10 วันก็สามารถลุกขึ้นเดินและควบคุมระบบขับถ่ายได้ เข้าโรงพยาบาลในสภาพติดเตียง ออกไปในสภาพเดินได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

แพทย์มีชื่อเสียงประจำโรงพยาบาล ประจำแผนกรังสีร่วมรักษา

ผู้คิดค้นและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรการทำไบออฟซี่เนื้องอกสมอง

หัวหน้านายแพทย์หวงเต๋อเหลียง

แผนกรังสีร่วมรักษา2

ประวัติย่อ : หัวหน้านายแพทย์แผนกรังสีร่วมรักษา2 เป็นสมาชิกสมาคนป้องกันโรคมะเร็งประจำประเทศจีน คณะกรรมการประจำสมาคมการรักษาโรคมะเร็งทางคลีนิคประจำประเทศจีน CSCO คณะกรรมการประจำสมาคมการป้องกันโรคมะเร็งประจำมณฑลกวางตุ้งสาขาการป้องกันด้วยเทคนิครังสีร่วมรักษา คณะกรรมการประจำสมาคมการรักษาโรคมะเร็งทางคลีนิคประจำมณฑลกวางตุ้ง ได้รับรางวัลป๋อเจี่ยหมอ(ซึ่งเป็นรางวัลด้านการคิดค้นด้านเทคโนโลยี) เจ้าของสิทธิบัตรการทำไบออฟซี่เนื้องอกในสมองภายในประเทศจีน ผู้คิดค้นการใช้รังสีไมโครเวฟผ่านทางหลอดลมเพื่อทำลายเนื้องอกในปอด

ความถนัด: การผ่าตัดเพื่อฆ่าเนื้อเยื่อมะเร็งด้วยการส่องกล้องแบบตรงเป้า การรักษาที่เกี่ยวกับเซลล์มะเร็ง หลีกเลี่ยงการเกิดผลกระทบต่อเซลล์ปกติ ได้ผลลัพธ์ของการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผลข้างเคียงต่ำ มีการมุ่งเป้าต่อการรักษาโรคมะเร็งและบริเวณที่เกิดโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น แผลที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็ก ลดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด ไม่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะกลางไมจนถึงผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม สามารถเพิ่มประสิทธิผลของการรักษาไปจนถึงเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งต่างกับการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม ซึ่งมีการผลข้างเคียงสูง ทั้งจากพิษของยา และความเจ็บปวดที่ผู้ป่วยได้รับ ประสิทธิผลทางรักษาต่ำ ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาไม่สามารถฆ่าเนื้อเยื่อมะเร็งได้อย่างเด็ดขาด


ติดตามเราได้ที่ รู้ทันข่าวสารโรคมะเร็ง
*
*
*
มี ไม่มี