การรักษาเซลล์มะเร็งและการชะลอความแก่ของผลิตภัณฑ์
(一) ประเภทของเซลล์ต้นกำเนิด
1. พลาสมาและเซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือ
พลาสมาจากสายสะดือและเซลล์ต้นกำเนิดมีการประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคและใช้ในเป้าหมายเพื่อการชะลอวัย พลาสมาจากสายสะดือมีปัจจัยการเจริญเติบโตและสารเคมีที่ช่วยเร่งการหายของแผล และส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ สำหรับเซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือสามารถใช้ในการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคของกระดูกสันหลัง ความบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน และโรคในระบบเลือดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาว่าเซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือมีศักยภาพในการรักษาโรคทางประสาท โรคหัวใจ โรคตับ และโรคเรื้อรังอื่นๆ ในด้านการชะลอความแก่ เซลล์ต้นกำเนิดจากสายสะดือสามารถส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และฟื้นฟูสภาพร่างกาย ชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกาย
2. เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ
เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำสามารถสกัดจากเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำของทารกแรกเกิด เมื่อคลอด เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำจะถูกตัดและภายในมีน้ำคร่ำและเนื้อเยื่อถุงน้ำคร่ำ ซึ่งประกอบด้วยเซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำที่สามารถสกัดได้โดยวิธีการที่เหมาะสม โดยไม่ทำอันตรายต่อแม่และทารก เนื่องจากเซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำอยู่ในเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำจึงไม่มีปัญหาการปฏิเสธจากระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำเป็นแหล่งเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้รับความนิยม
เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำสามารถใช้รักษาโรคต่างๆ เนื่องจากมีความสามารถในการเพิ่มจำนวนและแบ่งตัวได้สูง และสามารถสร้างปัจจัยการเจริญเติบโต สารเคมี และเซลล์ต้นกำเนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ดังนั้น เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำจึงสามารถใช้รักษาบาดแผลเรื้อรังและบาดแผลที่หายยากได้ เช่น แผลเบาหวาน และแผลพุพอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษาโรคกระดูก เช่น กระดูกหักและโรคข้อกระดูก นอกจากนี้ เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำยังสามารถใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันและโรคภูมิต้านตนเอง เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคตับแข็ง
เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำยังสามารถใช้รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับเยื่อบุ เช่น โรคพังผืดในปอดและการติดเชื้อในปอด ในการรักษาโรคพังผืดในปอด เซลล์เยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำสามารถส่งเสริมการซ่อมแซมและฟื้นฟูบริเวณที่เป็นพังผืด ลดการตอบสนองของการอักเสบและระดับของพังผืด เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มจำนวนและปรับปรุงการทำงานของเซลล์เยื่อบุลดอาการของโรคระบบทางเดินหายใจและระบบย่อยอาหาร
สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ
สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือมาจากเนื้อเยื่อเยื่อหุ้มรก สามารถสกัดได้จากเยื่อหุ้มหลอดเลือดและเลือดจากสายสะดือของทารกแรกเกิด เซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกสามารถสกัดได้ผ่านหลายวิธีซึ่งมีความง่ายและรวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย อัตราการนำมาใช้ได้อยู่ในระดับสูงและประโยชน์ที่ได้จากตัวเซลล์สูงกว่า ดังนั้นเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกจึงได้รับการวิจัยและนำไปใช้ในด้านการแพทย์อย่างกว้างขวาง กลายเป็นแหล่งเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้รับความคาดหวังสูง
เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกมีความสามารถสูงในการฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ให้แข็งแรง สามารถใช้รักษาโรคต่างๆ รวมถึง:
1. โรคข้ออักเสบและโรคกระดูกพรุน: สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูและซ่อมแซมกระดูกอ่อนของข้อ บรรเทาอาการปวดและปรับปรุงการทำงานของข้อต่างๆในร่างกายได้
2. โรคหัวใจ: สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูและซ่อมแซมหัวใจ ช่วยปรับปรุงการทำงานของหัวใจและบรรเทาอาการโรคหัวใจ
3. โรคระบบประสาท: สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ประสาท ปรับปรุงการทำงานของระบบประสาทและบรรเทาอาการโรคระบบประสาท
4. โรคเบาหวาน: สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูและซ่อมแซมเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ปรับปรุงระบบการหลั่งของอินซูลินและบรรเทาอาการซึ่งเกิดจากโรคเบาหวาน
เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกมีศักยภาพทางการรักษาที่ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้รักษาโรคต่างๆและมีความก้าวหน้าของศักยภาพที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาได้ในอนาคต
นอกจากนี้ เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกยังมีความสามารถในการปรับสภาพการเจริญเติบโตและฟื้นฟูร่างกาย ได้จากการเข้าไปช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับอนุมูลอิสระ สร้างความสามารถด้านการชะวัยได้จากในหลายๆด้าน:
ประการแรก เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกสามารถส่งเสริมความสามารถในการฟื้นฟูและซ่อมแซมตนเองของร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ ช่วยให้ร่างกายสามารถต้านทานภาวะการชราวัยได้ดีมากยิ่งขึ้น
ประการที่สอง เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแรง สามารถลดการผลิตอนุมูลอิสระและลดความเสียหายต่อเซลล์ ซึ่งจะช่วยชะลอกระบวนการชรา
นอกจากนี้ เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกยังสามารถยับยั้งการตอบสนองต่อการอักเสบ ส่งเสริมความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ลดผลกระทบของการอักเสบเรื้อรังต่อร่างกาย ซึ่งช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากความชราวัย
สุดท้าย เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์จากเยื่อหุ้มรกสามารถกระตุ้นการผลิตและการแยกตัวของเซลล์ต้นกำเนิดในร่างกาย ช่วยรักษาการทำงานของร่างกายให้เป็นไปอย่างปกติของอวัยวะและเนื้อเยื่อ ชะลอกระบวนการชราวัย
เพราะฉะนั้น ความสามารถด้านการชะลอวัยของเซลล์ต้นกำเนิดมีเคนไซน์ค่อนข้างสูงและมีคุณค่าในด้านการนำไปใช้รักษาโรคสูง
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอก (Tumor-infiltrating lymphocytes หรือ TILs)
ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอก(TILs)หมายถึงเซลล์ชนิดหนึ่งที่อยุ่ภายในเนื้องอก ในที่นี้รวมไปถึงเซลล์ต่อมน้ำเหลือง เช่น T-cells, B-cells , NK Cell, เซลล์พลาสมา แม้กระทั่งเซลล์เริ่มต้นของเซลล์พลาสมา ในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลิมโฟไซต์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ส่วนที่เข้ามาและมีความสำคัญมากที่สุดนั่นก็คือT-cells เพราะความจำเพาะเจาะจงด้านการรักษา สามารถเข้าต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้โดยตรง สร้างประสิทธิภาพของร่างกายในการต่อต้านโรคมะเร็ง ระดับของลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอกและการพัฒนาชนิดของโรคมะเร็ง และสามารถนำมาใช้ในการดูแลผู้ป่วยหลังการผ่าตัด ทำให้ลิมโฟไซดต์ที่แทรกซึมในเนื้องอกยิ่งได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และได้กลายมาเนอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญในด้านการทำวิจัยและพัฒนาการรักษาโรคมะเร็ง
ข้อโดดเด่นด้านการต่อต้านเซลล์มะเร็งของลิมโฟไซด์ที่แทรกซึมในเนื้องอก :
ลักษณะการรักษาแบบเฉพาะทาง : T-cellsในลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอกมีความสามารถในการเข้าต่อสู้กับเนื้องอกได้อย่างจำเพาะเจาะจง และความสามารถในการทำลายล้างเนื้อเยื่อมะเร็งสูง
แก้ปัญหาจากจุดเริ่มต้น : ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอกนั้นมาจากตัวเนื้องอกเอง เพราะฉะนั้นจึงมีความารถในการเข้าโจมตีเนื้อเยื่อมะเร็งได้อย่างตรางจุด หลีกเลี่ยงการเข้าโจมตีเนื้อเยื่อปกติ
ภูมิคุ้มกันในร่างกายสามารถจดจำชนิดของสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้ : ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอกสามารถจดจำแอนติเจนของมะเร็งได้ ให้ร่างกายมีความสามารถของภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน
มีความหลายหลายของการรักษา : ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอกไม่ได้มีแค่ T-cells, B-cells , NK Cell, เซลล์พลาสมา, เซลล์เริ่มต้นของเซลล์พลาสมาและเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดอื่นๆ ทำให้มีความหลากหลายของการต่อต้านโรคมะเร็ง
สรุปได้ว่า ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอกมีความจำเพาะเจาะจงของการรักษาโรคมะเร็ง สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ตั้งแต่จุดต้นกำเนิดของโรค มีความสารถในการจดจำแอนติเจนของเซลล์มะเร็ง และมีความสามารถโดดเด่นอื่นในการป้องกันโรคมะเร็ง เพราะฉะนั้น TILs จึงมีคุ่ณค่าสูงในด้านการรักษาโรคมะเร็ง
ลิมโฟไซต์ที่แทรกซึมเนื้องอก(TILs ) สามารถนำมาทำการรักษาโรคมะเร็งได้หลากหลายประเภท ตัวอย่างเช่น
โรคมะเร็งผิวหนัง: TILs ได้กลายเป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งผิวหนังที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงและทำการฉีดตัวTILs เข้าสู่ร่างกายเพิ่มจำนวนของTILs เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและโจมตีเซลล์มะเร็ง
โรคมะเร็งปอด: TILs ยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งปอด โดยการฉีด TILs เข้าสู่ร่างกายผู้ป่วยมะเร็งปอด ซึ่งสามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตและผลการรักษาของผู้ป่วยได้อย่างมาก
โรคมะเร็งหลอดอาหาร, โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก, โรคมะเร็งไต และเนื้องอกชนิดอื่นๆ: การประยุกต์ใช้ TILs กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
โรคมะเร็งระยะท้าย: สำหรับโรคมะเร็งระยะสุดท้ายบางประเภท TILs เป็นวิธีเสริมที่ใช้สำหรับการรักษา สามารถใช้เป็นวิธีการรักษาเสริม ช่วยยืดอายุผู้ป่วยและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย สรุปได้ว่า TILs มีการประยุกต์ใช้ในการรักษาเนื้องอกหลายประเภท และได้กลายเป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญในการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
สรุปได้ว่า TILs มีการประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้หลายประเภท และได้กลายเป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญในการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันสำหรับโรคมะเร็ง
เซลล์ทีคิลเลอร์(Cytotoxic T lymphocytes, CTLs)
CTL เป็นT-cell ที่มีสามารถในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ เป็นเซลล์สำคัญอีกตัวหนึ่งในระบบการฆ่าสิ่งแปลกปลอมในระบบภูมิคุ้มกัน สามารถค้นหาและทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งหรือเชื้อโรคได้ โดยการปล่อยสารพิษเข้าสู่เซลล์มะเร็ง(ตัวอย่างเช่น Perforin, Granzyme เป็นต้น) เพื่อทำลายเซลล์เป้าหมาย CTLs สามารถจดจำและระบุตำแหน่งแอนติเจนบนพื้นผิวของเชื้อโรคหรือเซลล์มะเร็งที่กลายพันธุ์และโจมตี มีบทบาทสำคัญในการป้องกันภูมิคุ้มกัน การสร้างและพัฒนาของCTLs ต้องการการทำงานร่วมกันของปัจจัยหลายชนิดและกระบวนการปรับภูมิคุ้มกันที่ซับซ้อน
CTLs เป็น T-cell ที่มีความพิเศษ เป็นเซลล์ที่มีความสำคัญที่พบในระบบภูมิคุ้มกัน โดยปกติแล้ว CTLsเกิดขึ้นจากระบบภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้น เมื่อร่างกายรับแอนติเจนที่เข้าทำร้ายร่างกายหรือได้รับวัคซีน แอนติเจนจะเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิด T-cell ที่มีลักษณะพิเศษเกิดขึ้น ในที่นี้ร่วมไปถึงCTLs ตัวCTLsเหล่านี้สามารถเข้าทำลายแอนติเจนเซลล์ของโรค หรือแอนติเจนของเซลล์มะเร็งที่มีความจำเพาะเจาะจง เพื่อทำหน้าที่ต่อการการอักเสบหรือต่อต้านเซลล์มะเร็งในร่างกาย
ที่อยู่ของโรงพยาบาล
TH: สำนักงานประเทศไทย อาคาร รอยัลลี ชั้น 5 เลขที่ 287 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
CN: เลขที่ 1 ถนนซือจี่, โครงการซิโน-สิงคโปร์, เขตหวงพู่, เมืองกวางโจว
สายฮอตไลน์
TH: 082-058-8855
CN: (+86) 18613012387
อีเมล
TH: royalleecancercenter.th@gmail.com
CN: info@royallee.cn