เมื่อนายอลาสเทร์ แม็กคอสแลนด์ อายุ 42 ปี ชาวออสเตรเลียทำงานด้านการตลาด สังเกตเห็นตุ่มเล็กบนใบหน้าเขาเขาไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาเลย
"ผมเติบโตในยุค 80 และใช้เวลาเยอะตากแดดเมื่อยังเป็นเด็ก," เขาคิดกลับมา
ความรักของอลาสแทร์ต่อกิจกรรมกลางแจ้งยังคงอยู่ต่อจนถึงในวัยผู้ใหญ่ "ผมใช้เวลาเยอะในแดด - ทำสวน ขี่จักรยาน และวิ่ง ผมจะทากันแดดตลอดเวลาและไม่เคยรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้"
เมื่อจุดบนด้านข้างของใบหน้าไม่หายเขาได้รักษาต่อกับหมอ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
"การวินิจฉัยนั้นทำให้รู้สึกประหลาดใจมาก มันเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผมอย่างมาก" เขากล่าว
อลาสแทร์ได้รับการการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและทำการผ่าตัดออก
"การวินิจฉัยของฉันทำให้การป้องกันจากแสงแดดกลับมาเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของ
ผม เพราะว่าแสงแดดทำลายผิวหนังของผมอย่างถาวร ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นระเบิดเวลา ที่จะมีอาการเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้” เขากล่าว
"ภรรยาของผมและผมตรวจสุขภาพผิวหนังทุกปี และผมเตือนลูกชายของผมเรื่องการป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลา เขาเหมือนเด็กคนอื่นๆที่คิดว่าตัวเองปลอดภัย"
"ครีมกันแดดและหมวกไม่เพียงพอ - คุณต้องมีการป้องกันตัวทุกช่องทาง"
อลาสแทร์ยังเริ่มมีการปรับตัวกับสภาพแวดล้อม "ผมรู้สึกกลัวแสงแดดมากและผมตรวจสอบระดับ UV เสมอ และป้องกันตัวเมื่อระดับ UV เป็น 3 หรือสูงกว่า
"แม้แต่ถ้าผมจะเดินเล่นกับเด็กไปไหนก็ตาม เพียงครึ่งชั่วโมง ผมก็ต้องป้องกันตัวเองเพราะโดยขึ้นอยู่กับระดับ UV แสงแดดกำลังทำให้คุณผิวหนังของคุณถูกทำลาย"
ข้อความหนึ่งที่อลาสแทร์ต้องการผู้ชายออสเตรเลียทั้งหลายจะได้ยิน? "โรคมะเร็งผิวหนังสามารถเกิดขึ้นกับทุกคนได้"
ผู้ชายเกือบสองเท่าของผู้หญิงเสียชีวิตจากมะเร็งผิวหนังในออสเตรเลีย
ป้องกันตัวของคุณโดยการใส่เสื้อผ้าป้องกันแสงแดด ใส่ครีมกันแดด SPF30 หรือสูงกว่าที่เป็นร่มน้ำ ใส่หมวก หาเงาและใส่แว่นกันแสงแดดเมื่อ UV เท่ากับ 3 หรือสูงกว่า
เอมิลี่: "รักอย่างกล้าหาญ"
