ถึงแม้ว่าอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่จะสูง แต่คนส่วนมากก็มักไม่ทราบรายละเอียดของอาการของมะเร็งลำไส้ดีเท่าที่ควร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจว จึงได้ทำการอธิบายอาการของมะเร็งลำไส้มีดังต่อไปนี้
หากท่านต้องการทราบอาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ,โปรดติดต่อสอบถามทางเราทันทีได้ทันที,เราจะเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพื่อช่วยตอบข้อสงสัยให้กับท่าน。
อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอะไรบ้าง
1.อุจจาระเป็นเลือดแต่ไร้อาการปวด:อาการหลักของมะเร็งลำไส้คืออุจจาระเป็นเลือด เลือดที่ปรากฏออกมาจะมีสีแดงหรือสีแดงสด ซึ่งอาการเช่นนี้จะคล้ายคลึงกับเป็นริดสีดวงทวารช่วงแรกมาก หลังจากนั้นเลือดในอุจจาระจะมีสีแดงเข้ม แสดงให้เห็นว่าอุจจาระมีส่วนผสมของน้ำมูกเลือดหรือเป็นหนองออกมาด้วย ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแนะนำว่า เมื่อพบว่าอุจจาระมีเลือดปนควรไปโรงพยาบาลทำการตรวจอุจจาระหรือตรวจลำไส้ทันที
2.ลักษณะรูปร่างของอุจจาระเปลี่ยนหรือระบบในการขับถ่ายเปลี่ยนไป:ระบบในการขับถ่ายแต่ละวันเปลี่ยนไปก็เป็นอาการหนึ่งของมะเร็งลำไส้ เนื่องด้วยก้อนเนื้อบริเวณลำไส้หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมากระตุ้นลำไส้และกระเพาะ ดังนั้นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้จะมีอาการเข้าห้องน้ำบ่อย มีความรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด อีกทั้งรูปร่างของอุจจาระก็มีการเปลี่ยนแปลง คือมีรูปร่างเล็ก แบนหรือมีรูพรุน หากพบอาการเหล่านี้แนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการส่องกล้องตรวจดูอาการ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดโอกาสในการรักษาที่ดีที่สุด
3. ลําไส้มีการอุดตัน: เนื่องจากก้อนเนื้อจะใหญ่ขึ้นปิดผนังลำไส้ ทำให้ช่องลำไส้เล็กลง โดยเฉพาะจุดที่มาบรรจบกันของลำไส้ตรงและลำไส้ใหญ่ส่วนคด ง่ายต่อการเกิดการอุดตันของลำไส้ นอกจากนี้ก่อตัวเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้กลายเป็นโรคร้ายที่แพร่กระจายไปทั้งร่างกายของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ได้ และอาจมีอาการโลหิตจาง ผอมซูบ ไม่มีแรง และเบื่ออาหารโดยไม่ทราบสาเหตุ
นอกจากนี้แล้ว โรคมะเร็งลำไส้ในระยะสุดท้ายมักจะลุกลามไปที่อวัยวะส่วนอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นกระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมากที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อย อั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือปัสสาวะลำบาก อาการเหล่านี้เป็นต้น การกระจายของมะเร็งที่ไขสันหลังจะทำให้กระดูกสันหลังส่วนกระเบนเหน็บและช่วงเอวมีอาการเจ็บปวด มะเร็งลำไส้ยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะไกลๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่นตับ ซึ่งทำให้ตับบวม ท้องบวม ดีซ่าน จนถึงกระทั่งน้ำหนักลดลงอย่างมาก หากพบว่ามีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอัลตราซาวด์ หรือซีทีแสกนทันที
หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โปรดติดต่อเราทันที,เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่มาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาโดยละเอียด
_
วิธีการวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่มีอะไรบ้าง?
1、การตรวจอาการเลือดออกซึ่งมีการปะปนในอุจจาระ: เซลล์ของเนื้องอกที่ขยายออกมามักจะมีเลือดซึม และเมื่อเลือดเข้าไปในส่วนของอุจจาระก็จะถูกขับถ่ายออกมาด้วย การตรวจอุจจาระทางแล็บสามารถเช็คส่วนประกอบของเลือดในปริมาณเพียงเล็กน้อยที่ติดมากับอุจจาระได้ และหากผลตรวจออกมาในทางแล็บหลายครั้งหรือเป็นประจำ และพบว่าระบบทางเดินอาหารมีเลือดออกเรื้อรัง ต้องทำการตรวจขั้นต่อไป เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้อบริเวณกระเพาะหรือลำไส้หรือไม่
2、การตรวจลำไส้ตรง:หลังจากที่คุณหมอใส่ถุงมือเรียบร้อย ก็จะทายาหล่อลื่นบริเวณรูทวารและนิ้วชี้ จากนั้นจะสอดนิ้วชี้เข้าไปตรงรูทวารเพื่อตรวจดูว่ามีก้อนเนื้อหรือไม่
3、การส่องกล้อง :การส่องกล้องเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของการตรวจมะเร็งลำไส้ เมื่อมีอาการอุจจาระมีเลือดหรือระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไป แต่ตรวจด้วยการตรวจลำไส้ตรงแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติใดใด ก็ควรจะทำการตรวจด้วยการส่องกล้องตรวจทางทวารหนักหรือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
(1)การส่องกล้องตรวจทางทวารหนัก(Sigmoidoscope) : เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก ความยาวสุดอยู่ที่ 30 ซม. หลังจากที่ส่องแล้วสามารถตรวจชิ้นเนื้อต่อ เหมาะกับการตรวจความเปลี่ยนแปลงส่วนที่ถัดจากการตรวจทางทวารหนัก
(2)การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก(fibercolonoscope) : ยาว 120 - 180 ซม. โค้งงอได้ สามารถตรวจดูลำไส้ใหญ่ได้ทั้งหมด ทำการผ่าตัดโดยการส่องกล้อง การตรวจการแข็งตัวของเลือดหรือการตรวจชิ้นเนื้อได้ซึ่งสามารถพบการเปลี่ยนแปลงได้โดยเร็ว หากยากต่อการวินิจฉัยสามารถใช้วิธีนี้ช่วยได้ ดังนั้นแล้วหากพบว่ามีอาการคล้ายกับมะเร็งลำไส้ ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คทันที
4、การตรวจด้วยเอ็กซเรย์:การตรวจนี้รวมไปถึงการสวนแบเรียมที่ระบบทางเดินอาหารและลำไส้ การตรวจด้วยการสวนแบเรียมไปที่ลำไส้เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ สำหรับจุดก่อกำเนิดโรคที่เล็กก็สามารถถ่ายภาพเปรียบเทียบโดยฉีดก๊าซสำหรับแบเรียมเข้าไปซึ่งได้ผลการตรวจที่มีประสิทธิภาพ การเอ็กซเรย์ยังสามารถแสดงภาพทั้งหมดของลำไส้และดูว่ามีแพร่กระจายของติ่งเนื้อหรือมะเร็งหรือไม่ได้อีกด้วย
5、การอัลตราซาวด์ ซีทีสแกนหรือการตรวจ MRI :การตรวจด้วยวิธีเหล่านี้ไม่สามารถวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งโดยตรงได้ แต่สามารถบอกตำแหน่งขนาดและความสัมพันธ์กับเซลล์รอบข้างของมะเร็งได้ ดูว่ามีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองหรือตับหรือไม่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก สามารถทำให้แพทย์สามารถกำหนดแนวทางให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ได้
6、ค่าสารบ่งชี้มะเร็ง (CEA):การหาค่าสารบ่งชี้มะเร็ง (CEA) เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นวิธีสำคัญวิธีหนึ่งในการตรวจหามะเร็งลำไส้ โดยทั่วไปถือว่าการประเมินผลลัพธ์และการคาดการณ์ที่มีประโยชน์ การตรวจหาค่าอย่างต่อเนื่องสามารถแสดงผลลัพธ์ของการทำคีโมหรือการผ่าตัดได้
ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจว:เตือนว่า หากพบว่าอุจจาระมีเลือดหรือระบบการขับถ่ายเปลี่ยนไปจากเดิม ควรรีบไปโรงพยาบาลตรวจร่างกายเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการรักษาที่ดีที่สุดไป
หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โปรดติดต่อเราทันที,เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมมาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาโดยละเอียด
ตามการวิจัยของศูนย์มะเร็งอเมริกัน อัตราการรอดชีวิต 5 ปีในแต่ละระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่:
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 1: 85%--95%;
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 2: 60%--80%;
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 3: 30%--60%;
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 4 : ต่ำกว่า5%
จะเห็นได้ว่าระยะของมะเร็งมีความสัมพันธ์อย่างมากกับโอกาสการรอดชีวิต การพบเร็ว ตรวจเร็ว วินิจฉัยเร็ว จึงเป็นปัจจัยสำคัญของการรักษา เพียงเราสามารถแบ่งระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างชัดเจนแพทย์ผู้รักษาจึงจะสามารถกำหนดแผนการรักษาที่ดีที่สุดได้
หากท่านต้องการทราบแผนการรักษาสำหรับระยะต่างๆของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่,ท่านสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำอย่างเฉพาะทางทางออนไลน์ได้ทันที
การแบ่งระยะ TNM
ระยะ TNM คือจะเป็นวิธีการแบ่งระยะของมะเร็งที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุด
T คือ เนื้องอก ส่วนที่แสดงถึงลักษณะและขนาดของก้อนเนื้อ โดยใช้ตัวเลขบ่งชี้ถึงขนาดของก้อนเนื้อคือ T1-T4;
N คือ ต่อมน้ำเหลือง(regional lymph Nodes)ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรอบของก้อนเนื้อนั้นได้รับการแพร่กระจายหรือไม่ โดยใช้ตัวเลขบ่งชี้ถึงระดับแพร่กระจายไปยังบริเวณต่อมน้ำเหลืองคือ N1~N2;
M คือ การแพร่กระจาย(Metastasis),เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายหรือไม่ โดยใช้ตัวเลขบ่งชี้ถึงระดับแพร่กระจายคือ M0-M1。
ระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดจนแผนการรักษา
(แผนการรักษาในแต่ละระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แสดง เป็นเพียงเพื่อประกอบการพิจารณาเท่านั้น ไม่สามารถนำมายึดถือเป็นพื้นฐานเดี่ยวในการรักษาส่วนบุคคลได้):
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 0 : Tis (เซลล์ต้นกำเนิด) , N0 , M0;
แผนการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 0 :การส่องกล้องเพื่อหาเซลล์มะเร็งและผ่าตัดนำติ่งเนื้อในลำไส้ออ
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 1 :T1-T2, N0, M0——เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปยังบริเวณเมือกลำไส้จนถึงชั้นผิวของลำไส้
แผนการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 1 :การผ่าตัดนำก้อนเนื้อมะเร็งออก,การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 2 :T3—T4, N0, M0——เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปยังบริเวณเยื่อหุ้มลำไส้หรือบริเวณรอบๆลำไส้และอวัยวะส่วนอื่น
แผนการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 2 :การผ่าตัดนำก้อนเนื้อมะเร็งออก,การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 3 :ระยะ T อื่นๆ, N1-N3, M0——เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปยังบริเวณต่อมน้ำเหลือง。
แผนการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 3 :การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 4 :ระยะ T อื่นๆ, N1-N3, M0——เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปยังบริเวณอวัยวะส่วนอื่น
แผนการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 4 :การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด,การฝังแร่ไอโอดีน
การกำเริบของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ :การกำเริบของมะเร็งหลังการรักษา จะพบได้ที่บริเวณปลายลำไส้ใหญ่ ไส้ตรง หรือส่วนอื่นในร่างกาย
แผนการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการกำเริบ:การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด การฝังแร่ไอโอดีน
หากต้องการทราบว่าท่านเหมาะสมกับวิธีการรักษามะเร็งเทคนิคใด โปรดติดต่อสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางออนไลน์ทันทีกรอกข้อมูลด้านล่าง ทางเราจะรีบให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตอบกลับท่านทันที。
ระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ต่างกัน ขั้นตอนการรักษาก็แตกต่างกันไปด้วย ที่โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวเรามีทีมแพทย์ MDT ที่คอยวินิจฉัยและวางแผนการรักษาให้กับผู้ป่วยตามสภาพอาการระยะ ขนาดและบริเวณที่เป็นมะเร็ง เพื่อให้เหมาะสมตามสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละบุคคลและ ทำให้ผู้ที่ป่วยด้วยมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถรักษาทวารหนักและลำไส้ไว้ได้ หลีกเลี่ยงการผ่าตัดทิ้งและความเจ็บปวดจากการสร้างทวารหนักใหม่
รายงานผลพยาธิวิทยาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่คือส่วนสำคัญที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งใช้ในการวางแผนการรักษาและติดตามผล แต่ทว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ในรายงานผลพยาธิวิทยาโรคมะเร็ง มักจะใช้คำและภาษาที่ค่อนข้างเป็นวิชาการและศัพท์เฉพาะ จึงทำให้ผู้ป่วยและญาติยากต่อการทำความเข้าใจ เพื่อช่วยเหลือทุกท่านให้สามารถทำความเข้าใจกับคำศัพท์ทางวิชาการเหล่านั้น ทางเราจึงได้เรียบเรียงคำศัพท์และภาษาทางการแพทย์ไว้ประกอบในการศึกษาข้อมูล
หากท่านต้องการทราบรายละเอียดเนื้อหาของผลการรายงานโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มเติม สามารถสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางออนไลน์ได้ทันที แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งพร้อมตอบข้อสงสัยและไขความกระจ่างให้กับท่าน
1. ลำไส้เล็กส่วนปลาย ลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ลำไส้ใหญ่ส่วนกลาง ลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย และไส้ตรง คืออะไร?
นี่คือส่วนประกอบทั้งหมดของลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็กส่วนปลาย ถือเป็นจุดต้นกำเนิดของลำไส้ใหญ่ โดยจะนำอาหารผ่านจุดลำไส้เล็กส่วนปลายนี้เข้าสู่บริเวณลำไส้ใหญ่ ไปสู่ลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ลำไส้ใหญ่ส่วนกลาง ลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง และลำไส้ใหญ่ส่วนปลายซึ่งเป็นส่วนที่มีลักษณะเป็นถุงยื่นลงไปจากที่ลำไส้เล็กมาต่อกันที่ส่วนปลายของลำไส้เล็กส่วนปลาย โดยส่วนสุดท้ายของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายจะเชื่อมไปสู่ไส้ตรง เมื่อของเสียที่ย่อยสลายแล้วจะถูกเก็บไว้บริเวณนี้เพื่อรอถ่ายออกจากร่างกาย
2. อะไรคือมะเร็งลำไส้ใหญ่ (หรือมะเร็งลำไส้ตรง)?
มะเร็งต่อมเป็นมะเร็งประเภทหนึ่ง โดยเริ่มจากเซลล์ของต่อมก่อตัวเป็นเมือก โดยน้ำเมือกจะเข้าสู่บริเวณลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยประเภทหนึ่งในมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งลำไส้ตรง โดยมะเร็งที่เกิดจากต่อม95% จะอยู่ในกลุ่มมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง โดยมะเร็งที่เกิดจากสาเหตุอื่นนอกเหนือจากประเภทนี้นั้น เช่นประเภท Signet ring cell ซึ่งจะยากต่อการรักษา
3. ระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงบ่งชี้ให้เห็นถึงอะไร?
ระยะ TNM นั้นจะนำมาใช้บ่อยในการแบ่งระยะของมะเร็ง
T คือ เนื้องอก ส่วนที่แสดงถึงลักษณะและขนาดของก้อนเนื้อ โดยใช้ตัวเลขบ่งชี้ถึงขนาดของก้อนเนื้อคือ T1-T4
N คือ ต่อมน้ำเหลือง ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรอบของก้อนเนื้อนั้นได้รับการแพร่กระจายหรือไม่ โดยใช้ตัวเลขบ่งชี้ถึงระดับแพร่กระจายไปยังบริเวณต่อมน้ำเหลืองคือ N1-N2
M คือ การแพร่กระจาย เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายหรือไม่ โดยใช้ตัวเลขบ่งชี้ถึงระดับแพร่กระจายคือ M0-M1
เมื่อแบ่งมะเร็งตามระยะ TNMก็จะสามารถทราบถึงระยะขั้นของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างคร่าวๆ
4. มะเร็งในลักษณะแพร่กระจายคืออะไร?
มะเร็งที่ลุกลามแล้วนั่นคือที่เราพอจะอนุมานได้ว่าเป็นในส่วนของมะเร็งอย่างแท้จริง เพราะ เซลล์มะเร็งนี้จะลุกลามไปสู่อวัยวะส่วนอื่นในร่างกาย โดยในลักษณะนี้จะเห็นได้ว่ามันได้เข้าไปสู่ส่วนอื่นซึ่งไกลออกไปจากจุดเดิม
แปลความหมาย มะเร็งแทรกซึมในขั้นตอนทางคลินิกมักจะแสดงโดย T T1 T2 T3 และ T4 เป็นส่วนของระดับของการแทรกซึม
5. การแบ่งระดับนั้นแฝงไปด้วยอะไร?
ระดับการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นระดับของมะเร็งนั่นเอง โดยพื้นฐานแล้วจะตรวจพบได้ผ่านกล้องจุลทรรศน์โดยสังเกตุถึงระดับความเปลี่ยนแปลงและความผิดปกติของเซลล์ โดยจะแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ แตกต่างมาก (ระดับต่ำ) แตกต่างปานกลาง (ระดับปานกลาง) แตกต่างน้อย (ระดับสูง) โดยมะเร็งในขั้น แตกต่างน้อย (ระดับสูง)นั้น จะสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรายงานผลพยาธิวิทยาของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถสอบถามทางออนไลน์ได้ทันที
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคมะเร็งแห่งโรงพยาบาลมะเร็งRoyal Leeกวางโจว ชี้แจงว่า :ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงคำอธิบายผลตรวจทางพยาธิวิทยาของมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่อท่านมีผลตรวจที่เนื้อหาค่อนข้างละเอียดและซับซ้อน ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษา จึงจะสามารถทำให้ผู้ป่วยนั้นได้รับคำแนะนำอย่างถูกวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดจากการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องของตัวผู้ป่วยเอง
ศูนย์การวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหารของโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวเป็นศูนย์ที่มีชื่อเสียงสำหรับการวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหารที่มีมีมาตรฐานระดับสูงทางตอนใต้ของจีน มีผู้เชี่ยวชาญชั้นหนึ่ง เทคโนโลยีชั้นหนึ่ง อุปกรณ์ชั้นหนึ่ง ห้องป่วยภายในชั้นหนึ่งและบริการชั้นหนึ่ง อีกทั้งมีประสบการณ์มากมายในการวินิจฉัยและการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
โรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวมีเครื่องสำหรับการวินิจฉัยเช่น DSA อุปกรณ์อัลตราซาวน์ CT และ MRI และมีเครื่องมือล้ำสมัยสำหรับผู้ป่วยในการวินิฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ยกตัวอย่างเช่น การรักษาด้วยเครื่องวัดความถี่วิทยุ เครื่องทำการรักษาความร้อนจากคลื่นไมโครเวฟและกล้องส่องช่องท้อง 3D เป็นต้น ศูนย์วินิจฉัยและการรักษามะเร็งระบบทางเดินอาหารโรงพยาบาลมะเร็งรอยัลลีกวางโจวสามารถดำเนินการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบบาดแผลแล็ก การผ่าตัดใหญ่ เคมีบำบัด การรักษาแบบพุ่งเป้า การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการเพาะเลือด คีโมเฉพาะจุด เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีนและวิธีการรักษาที่ล้ำสมัยอีกมากมาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลการรักษาที่ดีที่สุด
แผนการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
1.การรักษาด้วยการผ่าตัด การรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นทางเลือกอันดับแรกสำหรับผู้ป่วยมะเร็งระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแรกที่รักษาด้วยการผ่าตัดมีอัตราการรักษาหายขาดค่อนข้างสูง
2.เคมีบำบัด ยาเคมีบำบัดมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยมะเร็งระบบทางเดินอาหาร เมื่อยาเคมีบำบัดเข้าสู่ร่างกายจะแพร่กระจายไปยังทั่วร่างกาย ซึ่งสามารถฆ่ามะเร็งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและมะเร็งที่แพร่กระจายขนาดเล็ก
3.การรักษาแบบพุ่งเป้า การรักษาแบบพุ่งเป้าจะมีประสิทธิภาพต่อยีนของเซลล์มะเร็งหรือผลผลิตยีนของเซลล์มะเร็ง สามารถทำลายเซลล์มะเร็งอย่างแม่นยำ และส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติเพียงเล็กน้อย
4.การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการเพาะเลือด เป็นเทคนิคใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งเทคนิคหนึ่ง เป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองในการทำลายเซลล์มะเร็งและเนื้อเยื่อมะเร็ง
5.การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด วิธีการรักษามะเร็งด้วยคีโมเฉพาะจุดรวมถึงการฉีดสารอุดหลอดเลือดแดงและการให้เคมีบำบัดหลอดเลือดแดง นอกจากนี้ การรักษาด้วยความร้อนต่างๆสามารถนำพลังงานผ่านเข็มเจาะเพื่อเข้าสู่ใจกลางมะเร็ง และทำให้มะเร็งบริเวณนั้นถูกทำลาย
6.โภชนาการสนับสนุนการรักษา วิธีการสนับสนุนทางโภชนาการได้แก่สารอาหารในลำไส้และลำไส้หรือทั้งสองอย่าง สำหรับผู้ป่วยที่รุนแรงมันไม่เพียงแต่ให้สารอาหารแต่ยังรักษา
7.เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีน ยาแพทย์แผนจีนสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถใช้ร่วมกับการผ่าตัด รังสีบำบัด เคมีบำบัดและวิธีการรักษาต่างๆเพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการแพ้ ลดผลข้างเคียงและยืดอายุของผู้ป่วย
วิธีการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นมีหลากหลายวิธี แต่การรักษาตามอาการ ระยะของโรค และสภาพร่างกายของผู้ป่วยเท่านั้น จึงจะสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งตลอดจนบรรลุผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมแพทย์MDT((รูปแบบการรักษาที่รวมเอาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาวิชาชีพมาทำงานร่วมกัน))ได้ร่วมมือกันเพื่อวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับท่าน หากท่านมีปัญหาเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โปรดติดต่อเราทันที,เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ มาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาโดยละเอียด
การฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่เพียงแต่ต้องมีการวางแผนการรักษาที่สมบูรณ์แล้ว แต่การบริการด้านบริบาลอย่างละเอียดยังเป็นสิ่งสำคัญมากอีกด้วย โรงพยาบาลมะเร็ง Royal Lee กวางโจวไม่เพียงแต่ทำการวินิจฉัยและการรักษาแบบสหสาขาวิชาชีพสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ยังให้บริการด้านบริบาลอย่างครบวงจร สิ่งสำคัญในการบริบาลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่หลังการผ่าตัดรวมถึง การให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ ดูแลด้านโภชนาการ การปฐมพยาบาลรูปากแผล ของผู้ป่วยและการบำบัดทางจิตวิทยาเป็นต้น
1.คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ การอธิบายรายละเอียดการดูแลสุขภาพตามวิทยาศาสตร์สามารถช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งทวารหนัก และในขณะเดียวกันยังเกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยในด้านโภชนาการและการบริบาลผู้ป่วยหลังออกจากโรงพยาบาล ซึ่งการให้คำแนะนำนั้นเราจะใช้คำที่เข้าใจง่าย ให้ความรู้ของข้อควรระวังด้านโภชนาการและการปฐมพยาบาลรูปากแผลหลังออกจากโรงพยาบาล
2. การดูแลด้านโภชนาการ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดมักจะต้องอดอาหารสี่วัน หลังจากที่ลำไส้ฟื้นตัวและมีผายลมถึงจะค่อยๆทานอาหารเหลวได้ หลังผ่าตัดสิบสี่วันถึงจะทานอาหารทั่วไปที่ไม่ค่อยมีกากใยได้ แนะนำให้ทานอาหารที่ย่อยง่ายในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง ห้ามทานอาหารที่กระตุ้นลำไส้อย่างรุนแรงและอาหารที่ผลิตก๊าซในระบบทางเดินอาหารและห้ามดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่ม
1.หลักในการรับประทาน
(1) ทานในปริมาณที่น้อยแต่บ่อยครั้ง เคี้ยวนานขึ้น ค่อยๆเพิ่มปริมาณในการทาน หลังจากทานแล้วไม่อาเจียน ไม่ท้องอืด ระบบขับถ่ายปกติเป็นกิจวัตร
(2)ควรทาน 5-6 มื้อต่อวัน นอกจากสามมื้อต่อวัน แล้วควรเพิ่มอาหารระหว่างมื้อและทานอิ่มเพียงเจ็ดต่อสิบส่วนเท่านั้น
(3)ควรดื่มน้ำและน้ำผลไม้ในปริมาณที่ น้ำดื่มควรต้มเดือด ผลไม้ควรล้างให้สะอาดและปอกเปลือก ต้องสะอาดและถูกสุขลักษณะ
(4)หลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารเย็น อาหารแข็ง อาหารเผ็ดและอาหารร้อนเกินไป
(5)พยายามงดอาหารทอด
2.หลักทางโภชนาการ
ทางด้านโภชนาการควรเน้นเนื้อสัตว์และผัก เสริมโปรตีนวิตามินแร่ธาตุฯลฯในปริมาณที่เหมาะสม หากแพทย์ไม่กำชับพิเศษไม่จำเป็นต้องงดอาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง ควรเน้นทานอาหารที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว ธัญพืช ผักสดและผลไม้ งดสูบบุหรี่ดื่มสุรา ไม่ทานอาหารเปรี้ยว อาหารเผ็ดและอาหารประเภทที่เกิดการกระตุ้น เช่น ไม่ทานอาหารเย็นและอาหารที่ร้อนเกินไป
3.การปฐมพยาบาลรูปากแผล ทำความสะอาดบริเวณรอบเยื่อเมือกและผิวหนังรูปาก แผลด้วยน้ำเกลือที่ไม่ระคายเคืองแผลผ่าตัด และในขณะเดียวกันทำความสะอาดเยื่อเมือก รอบๆและผิวหนัง
4.การบำบัดทางจิตวิทยา ปมด้อยเป็นปัญหาทางจิตวิทยาที่พบมากที่สุดหลังการผ่าตัด ควรสอนให้ผู้ป่วยใช้เครื่องมือทำความสะอาดถุงทวารหนักและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ควรให้คำอธิบายอย่างรายละเอียดในการดูแลผิวรอบๆรูปากแผล เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวรอบรูปากแผลแห้งแตกฯลฯ
โรงพยาบาลมะเร็ง Royal Lee กวางโจวมีประสบการณ์อย่างมากในการรักษาและบริบาลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ เราได้ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนมากให้กลับมามีชีวิตที่แข็งแรงอีกครั้ง หากท่านมีปัญหาเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ โปรดติดต่อเราทันที,เราจะเชิญทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่มาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาอย่างละเอียด
ตามสถิติของกรมอนามัยโลก ปีค.ศ. 2020 มีผู้ที่ป่วยด้วยมะเร็งลำไส้ใหญ่กว่า1,750,000 ราย ทั่วโลก อัตราการตรวจพบเป็น9.8%ของโรคมะเร็งทั้งหมด ซึ่งเป็นอัตราการตรวจพบที่สูงเป็นอันดับสาม มีผู้เสียชีวิตถึง790,000ราย อัตราการเสียชีวิตเป็น8.9% ซึ่งเป็นอันดับสองของการเสียชีวิต ข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งประเภทหนึ่งที่มีความเสี่ยงและมีอัตราการเสียชีวิตสูง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่? เทคนิคการรักษาแบบบาดแผลเล็กที่ผลข้างเคียงต่ำ บาดแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว สามารถทำให้ผู้ที่ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่รักษาทวารหนักและลำไส้ไว้ได้ หลีกเลี่ยงการผ่าตัด หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากการสร้างทวารหนักใหม่
หากท่านสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนของท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โปรดติดต่อเราทันที เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งลำไส้ใหญ่มาประเมินอาการของท่านและให้คำแนะนำการรักษาโดยละเอียด
การแบ่งประเภทของมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นคลอบคลุมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งทวารหนัก สามารถแบ่งได้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เกิดจากต่อม (โดยส่วนใหญ่98%จะเป็นประเภทนี้) Mocinous Squamous Adenosquamous Medullary.และจะพบในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน หากแบ่งตามรูปร่างและลักษณะของเซลล์มะเร็งจะได้เป็นแบบนิ่ม (ที่เกิดจากต่อมหรือระบบเลือด) , แบบแข็ง (ที่เป็นลักษณะก้อนเนื้อมะเร็ง) และแบบที่เกิดจากอาการอักเสบของลำไส้
อัตราการรอดชีวิต 5 ปีในแต่ละระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 1: 85%--95%;
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 2: 60%--80%;
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 3: 30%--60%;
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 4 : ต่ำกว่า5%
ความเจ็บปวดจากวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม-
การผ่าตัดลำไส้ การผ่าตัดบาดแผลใหญ่ ความเสี่ยงสูง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีถุงลำไส้ติดตัวตลอดและส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตต่ำลง
การให้คีโม ผลข้างเคียงสูง เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียนเป็นต้น
เทคนิคสมัยใหม่ในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
เทคนิคเฉพาะจุด ปากแผลเล็กเพียง 1-2 ม.ม. ตัวยาต้านมะเร็งจะเข้าสู่เซลล์มะเร็งโดยตรง ความเข้มข้นของตัวยาสูงกว่าการให้คีโมทั่วร่างกาย 2-8 เท่าผลข้างเคียงต่ำ ทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ
การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการเพาะเลือด: เป็นเทคนิคใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งเทคนิคหนึ่ง เป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองในการทำลายเซลล์มะเร็งและเนื้อเยื่อมะเร็ง
การรักษาแบบพุ่งเป้า:การรักษาแบบพุ่งเป้าจะมีประสิทธิภาพต่อยีนของเซลล์มะเร็งหรือผลผลิตยีนของเซลล์มะเร็ง สามารถทำลายเซลล์มะเร็งอย่างแม่นยำ และส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติเพียงเล็กน้อย。
โภชนาการสนับสนุนการรักษา:วิธีการสนับสนุนทางโภชนาการได้แก่สารอาหารในลำไส้และลำไส้หรือทั้งสองอย่าง สำหรับผู้ป่วยที่รุนแรงมันไม่เพียงแต่ให้สารอาหารแต่ยังรักษา
เทคนิคแบบบูรณาการแพทย์แผนจีน: ยาแพทย์แผนจีนสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถใช้ร่วมกับการผ่าตัด รังสีบำบัด เคมีบำบัดและวิธีการรักษาต่างๆเพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการแพ้ ลดผลข้างเคียงและยืดอายุของผู้ป่วย